ศาลสหรัฐฯสั่งห้ามพยาบาลเสี่ยงอีโบลาดูหนัง-เข้าห้าง ชาวอิตาลีถูกปรับเป็นแสนเล่นมุกบนเครื่อง

เอเอฟพี - ศาลสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์(31ต.ค.) ออกคำสั่งพยาบาลหญิงสหรัฐฯที่กลับจากรักษาคนไข้อีโบลาในแอฟริกาตะวันตกและมีกรณีพิพาทกับมลรัฐเกี่ยวกับมาตรการกักกันโรค ให้อยู่ห่างจากสถานที่สาธารณะและห้ามเข้าใกล้คนอื่นๆในระยะ 3 ฟุต ส่วนในไอร์แลนด์ ชายชาวอิตาลีถูกปรับเงินกว่า 100,000 บาท โทษฐานไม่รู้กาลเทศะเล่นมุกไวรัสมรณะบนเครื่องบิน

เคซี ฮิกค็อกซ์ ยืนยันว่าเธอมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงและวิพากษ์วิจารณ์เจ้าหน้าที่สหรัฐฯอย่างเจ็บแสบต่อกรณีพยายามกักกันโรคเธอเป็นเวลา 21 วันนับตั้งแต่เดินทางกลับบ้านในรัฐเมน อันเป็นระยะฟักตัวของอีโบลา

ในวันศุกร์(31ต.ค.) ชาร์ลส์ ลาเวอร์ดิแอร์ ผู้พิพากษาศาลแขวง มีคำสั่งชั่วคราวให้เธอออกจากห่างสถานที่สาธารณะ อย่างเช่นศูนย์การค้าและโรงภาพยนตร์ รวมถึงห้ามเธอเข้าใกล้คนอื่นๆในระยะ 3 ฟุต(1เมตร) ไม่ว่าจะเป็นตอนเดินหรือวิ่งจ็อกกิ้ง ขณะที่คาดหมายว่าคำพิพากษาขั้นท้ายสุดจะมีออกมาในช่วงค่ำวันเดียวกัน อย่างไรก็ตามคำสั่งนี้ถือว่าเบากว่าที่ทางมลรัฐต้องการ

คำสั่งนี้มีออกมาหลังจากฮิกค็อกซ์ เพิกเฉยต่อคำสั่งของมลรัฐที่ให้กักตัวอยู่แต่ภายในบ้านพัก โดยเธอควงแฟนปั่นจักรยานออกจากบ้านในรัฐเมน ขณะที่ผู้พิพากษายังต้องการให้เธอร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแจ้งแผนการเดินทางโดยตรงและสังเกตอาการตนเองอย่างกระตือรือร้น รวมถึงหลีกหลี่ยงระบบขนส่งเชิงพาณิชย์และสาธารณะ

พยาบาลฮิกค็อกซ์ ถูกแยกตัวกักกันโรคในเตนท์ ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งเป็นเวลา 3 วัน หลังเดินทางกลับมาจากเซียร์ราลีโอน แต่พอเกิดข้อถกเถียงเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน นายคริส คริสตี ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ ก็ยอมปล่อยเธอกลับบ้าน และเธอก็ขับรถกลับไปยังรัฐเมน แต่ยังคงอยู่ภายใต้คำสั่งกักกันตนเอง

ฮิลค็อกซ์ ประกาศต่อสู้กับรัฐเมน ซึ่งต้องการกักกันโรคเธอต่ออีก 12 วัน เนื่องจากอีโบลามีช่วงเวลาฟักตัว 21 วัน อย่างไรก็ตามทางรัฐเมนบอกว่าหากจำเป็นจริงๆก็จะร้องขอให้ศาลออกคำสั่งให้เธออยู่แต่ภายในบ้านพัก

ทำเนียบขาวและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกมาวิพากษ์วิจารณ์มาตรการที่เข้มงวดเกินไปเกินไปของบางมลรัฐ ซึ่งกักกันแพทย์และพยาบาลที่เดินทางกลับจากไปช่วยรักษาคนไข้อีโบลาในแอฟริกาตะวันตก อันเกินขอบเขตคำแนะนำของรัฐบาลกลาง ส่วนประธานาธิบดีบารัค โอบามา เรียกร้องอเมริกันชนตอบสนองต่อไวรัสอีโบลาด้วยข้อเท็จจริงไม่ใช่ความกลัว และบอกว่าบุคคลที่อาสาไปทำงานในแถวหน้าควรได้รับเสียงชื่นชมมากกว่า

การแพร่ระบาดของอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก คร่าชีวิตผู้คนแล้วมากกว่า 4,900 คน ส่วนใหญ่อยู่ในไลบีเรีย กินีและเซียร์ราลีโอน แต่ก็มีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆว่ามันจะแผ่ลามสู่ดินแดนอื่นๆ และบ่อยครั้งมันก็กระตุ้นให้เกิดความตื่นตระหนในหมู่ประชาชน

เมื่อวันศุกร์(31ต.ค.) ศาลไอรแลน์ มีคำสั่งปรับเงินชายชาวอิตาลี 2,500 ยูโร(ราว100,000บาท) หลังถูกจับกุม ณ สนามบินดับลิน กรณีแกล้งอำเกี่ยวกับอีโบลาระหว่างอยู่บนเที่ยวบิน

นายโรแบร์โต บินาสชี วัย 56 ปี เขียนคำว่า "ระวัง อีโบลา" บนฝาปิดถ้วยกาแฟล้อลูกสาวเล่น ระหว่างโดยสารเครื่องบินของสายการบินเออร์ลิงกัส จากมิลานสู่ดับลินเมื่อวัพฤหัสบดี(30ต.ค.) แต่พอลูกเรือมาเห็นฝาปิดถ้วยกาแฟที่มีข้อความดังกล่าวในถังขยะ จึงกระตุ้นให้ลูกเรือแจ้งเตือนไปยังท่าอากาศยานเมืองดับลิน

ณ สนามบินได้มีการประกาศใช้ข้อบังคับฉุกเฉินและมีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมเครื่องบินซึ่งบรรทุกผู้โดยสาร 142 คนหลังจากลงจอด ก่อนที่ต่อมาจึงทราบว่าเป็นเหตุเข้าใจผิด แต่นายบินาสชี ภรรยาและลูกสาว ทั้งหมดถูกควบคุมตัว ทั้งนี้ระหว่างที่นายบินาสชี ถูกนำตัวขึ้นศาลในเมืองหลวงของไอร์แลนด์ในวันศุกร์(31ต.ค.) เขากล่าวคำขอโทษและบอกว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะก่อความตื่นตระหนกแต่อย่างใด