xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ มาเลย์กร้าว จะนำตัวมือสอย “MH17” มารับโทษตามกฎหมาย พร้อมหวังพบร่องรอย “MH370” ที่หายสาบสูญ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคแห่งมาเลเซีย ยืนยันจะไม่ลดละในการหาทางนำตัว “ผู้อยู่เบื้องหลัง” โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเที่ยวบิน “MH17” ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส มารับโทษตามกระบวนการยุติธรรม พร้อมเผยยังคงมีความหวังในการตามหาเที่ยวบินปริศนา “MH370”

นาจิบ วัย 61 ปี ซึ่งเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 6 ของมาเลเซียตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายนปี 2009 ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างเดินทางไปร่วมประชุมว่าด้วยการเงินอิสลามนานาชาติ โดยยืนยันว่ารัฐบาลมาเลเซียยังคงต้องการเดินหน้าสืบสวนการตกในยูเครนของเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์สเที่ยวบิน MH17 เมื่อเดือนกรกฎาคมต่อไป พร้อมยืนยันว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังโศกนาฏกรรมที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 298 รายครั้งนี้จะต้องถูกนำตัวมาดำเนินคดีและรับโทษ ต่อสิ่งที่ได้กระทำลงไป

“ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการตกของ MH17 จะต้องได้รับบทลงโทษตามกฎหมาย ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใคร และมีเจตนาโจมตีเที่ยวบินดังกล่าวหรือไม่ เพราะต้องไม่ลืมว่า นี่คือการโจมตีเครื่องบินพลเรือน ซึ่งเป็นการกระทำที่มิอาจยอมรับได้” ผู้นำรัฐบาลแดนเสือเหลืองกล่าว

ทั้งนี้ เที่ยวบิน MH17 ของมาเลเซียระหว่างกรุงอัมสเตอร์ดัมในเนเธอร์แลนด์ มายังกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียถูกยิงตกโดยอาวุธที่คาดว่าจะเป็น ขีปนาวุธแบบพื้นสู่อากาศ

ที่ผ่านมารัฐบาลยูเครนที่มีจุดยืนฝักใฝ่โลกตะวันตก กล่าวหาว่ากลุ่มแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกของประเทศที่ได้รับการหนุนหลังจากรัสเซียว่าเป็นผู้โจมตีต่อเที่ยวบินนี้ แต่ทั้งฝ่ายแบ่งแยกดินแดนและรัฐบาลมอสโกต่างยืนกรานปฏิเสธ

ขณะที่ผลตรวจสอบเบื้องต้นของทีมผู้เชี่ยวชาญจากเนเธอร์แลนด์สรุปได้เพียงว่า เครื่องบินถูกโจมตีจากวัตถุที่มี “พลังงานสูง” แต่ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นอาวุธชนิดใด

นายกรัฐมนตรีมาเลเซียยังเปิดเผยว่า ในกรณีของเที่ยวบิน “MH370” ที่สูญหายไปอย่างเป็นปริศนาพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือรวม 239 ชีวิต ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 มีนาคมนั้น ตัวเขายังคงมีความหวังว่าว่าจะสามารถค้นพบเครื่องบินลำดังกล่าวแม้จะเป็นเพียงเศษซาก โดยเชื่อว่าความร่วมมือของนานาชาติตลอดจนเทคโนโลยีในการค้นหาสมัยใหม่จะนำไปสู่การคลี่คลายปริศนาของเที่ยวบินนี้ได้ในเร็ววัน แม้ปฏิบัติการค้นหาของนานาชาติทั้งทางอากาศ ในทะเล และใต้ทะเลตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาจะประสบความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
กำลังโหลดความคิดเห็น