รอยเตอร์ - กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ เผยเมื่อวันอังคาร (28 ต.ค.) กำลังเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยตามอาคารราชการต่างๆ ในวอชิงตัน และเมืองอื่นๆ สืบเนื่องจากภัยคุกคามก่อการร้ายที่ยังคงมีอยู่และเหตุโจมตีรัฐสภาแคนาดาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
แม้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯเผยว่ายังไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับแผนการโจมตีเป้าหมายต่างๆ ในอเมริกา แต่กลุ่มหัวรุนแรงทั้งหลายอาทิรัฐอิสลาม (ไอเอส) และ อัลกออิดะห์ เคยประกาศเรียกร้องสาวกเล่นงานแดนลุงแซมมาแล้วหลายครั้ง ในนั้นรวมถึงผ่านสื่อสังคมออนไลน์
เจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามกลาวว่า มาตรการใหม่นี้ถูกกำหนดออกมาตามหลังคำขู่ระลอกแล้วระลอกเล่าจากกลุ่มนักรบต่างๆ ที่ทางหน่วยงานของสหรัฐฯเฝ้าจับตามานานหลายเดือน
ด้าน นายเจช์ จอห์นสัน รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ กล่าวในถ้อยแถลงว่า “จากเหตุการณ์ต่างๆ ทั่วโลก จึงมีคำสั่งเฝ้าระวังสูงสุดเพื่อปกป้องสถาบันต่างๆ ของรัฐบาลอเมริกาและบุคลากรของเรา” เขากล่าว “เหตุผลของความเคลื่อนไหวนี้ชัดเจนในตัว ยังคงมีเสียงเรียกร้องผ่านสาธารณะจากองค์กรก่อการร้ายต่างๆ ให้โจมตีภายในดินแดนของเรา และที่อื่นๆ ในนั้นรวมถึงการเล่นงานเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและเจ้าหน้าที่รัฐบาล เช่นเดียวกับกรณีที่เกิดเหตุรุนแรงกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลและสถาบันต่างๆ ในแคนาดาและชาติอื่นๆ เมื่อเร็วๆ นี้”
จอห์นสัน กล่าวว่า เขาสั่งการให้เสริมมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษตามอาคารรัฐบาลต่างๆ ในวอชิงตัน ดี.ซี. และเมืองหลักอื่นๆ เช่นเดียวกับที่ตั้งสถาบันสำคัญๆ ทั่วประเทศ ซึ่งมาตรการรักษาความปลอดภัยนี้จะอยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยป้องกันรัฐบาลกลาง (Federal Protective Service) และครอบคลุมศูนย์ราชการกับที่ตั้งต่างๆ กว่า 9,500 แห่ง แต่รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งมาตุภูมิรายนี้ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม นายจอห์นสันเตือนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท้องถิ่นและมลรัฐต่างๆ ว่ายังต้องอยู่ในความระมัดระวัง โดยเฉพาะกับความเป็นไปได้ของการโจมตีด้วยผู้ก่อเหตุเพียงลำพังหรือกลุ่มบุคคลเล็กๆ
เมื่อวันพุธที่แล้ว นายไมเคิล ซีแฮฟ-ไบโบว์ ผู้ต้องสงสัยวัย 32 ปี ซุ่มยิง สิบโท นาธาน ซิริลโล ทหารที่รักษาการอยู่ที่อนุสาวรีย์ทหารผ่านศึกในกรุงออตตาวา เสียชีวิต จากนั้นก็บุกเข้าสู่อาคารรัฐสภาแคนาดาที่อยู่ใกล้กัน และเปิดฉากยิงกราด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ อย่างน้อย 3 คน ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต
ตำรวจระบุว่า นายซีแฮฟ-ไบโบว์ เปลี่ยนไปนับถืออิสลามและได้บันทึกวิดีโอก่อนการโจมตี ซึ่งพวกเขาชี้ว่าเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าผู้ก่อเหตุมีแจงจูงใจด้านอุดมการณ์และทางการเมือง