รอยเตอร์ - คณะแพทย์เผยเมื่อวันอังคาร(21ต.ค.) ว่าพยาบาลชาวสเปนที่ติดโรคระหว่างดูแลรักษาบาทหลวงมิสชันนารีที่ต่อมาเสียชีวิตด้วยอีโบลา ปลอดจากเชื้อไวรัสมรณะนี้แล้ว หลังผลตรวจ 2 ครั้งออกมาเป็นลบ อย่างไรก็ตามความกังวลต่อการแพร่ระบาดยังไม่ซาลง โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่เริ่มมาตรการบังคับให้นักเดินทางที่มาจาก 3 ชาติแอฟริกาตะวันตก เข้าประเทศผ่านท่าอากาศยานที่กำหนดไว้ 5 แห่งเท่านั้น ขณะที่โพลล่าสุดพบอีโบลา ทะยานพุ่งติด 1 ใน 10 ประเด็นที่อเมริกันชนหวาดวิตกที่สุดในตอนนี้
"เรามองว่าเธอหายจากไวรัสอีโบลาตามกฎเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก" โฮเซ รามอน อาร์ริบาส แพทย์ของโรงพยาบาลการ์ลอสที่ 3 ในกรุงมาดริด ที่พยายาลรายนี้รักษาตัวกล่าวหลังผลการตรวจร่างกายของพยาบาลเทเรซา โรมีโร ทั้ง 2 ครั้งซึ่งทิ้งระยะห่างกัน 48 ชั่วโมง ออกมาเป็นลบ อย่างไรก็ตามเธอจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลจนกว่าจะฟื้นไข้อย่างสมบูรณ์
เทเรซา โรมีโร วัย 44 ปี ถูกวินิจฉัยโรคว่าป่วยเป็นอีโบลาเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ทำให้เธอกลายเป็นคนไข้อีโบลารายแรกที่ติดเชื้อนอกแอฟริกาตะวันตกในการแพร่ระบาดปัจจุบันที่คร่าชีวิตผู้คนหลายพันศพใน ไลบีเรีย เซียร์ราลีโอนและกินี
การติดเชื้อในแผนกที่มีการป้องกันระดับสูง กระตุ้นเสียงกล่าวหากันไปมาในสเปน โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขบอกว่าโรงพยาบาลไม่ได้เตรียมพร้อมรับมือกับโรคระบาดอีโบลาและเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้รับการฝึกฝนหรือเครื่องไม้เครื่องมือที่ดีพอ
โรมีโร เป็นหนึ่งในคณะที่ให้การดูแลบาทหลวง 2 คนที่ติดเชื้ออีโบลาขณะปฏิบัติภารกิจในแอฟริกาตะวันตกและถูกส่งกลับมารักษาอาการป่วยในสเปน แต่ทั้งคู่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่พยาบาลรายนี้ถูกส่งตัวเข้าไปยังแผนกกักกันของโรงพยาบาล หลังจากแจ้งว่าตนเองมีอาการป่วย ขณะที่สามีและคนอื่นๆที่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับเธอก็ถูกส่งเข้าแผนกกักกันโรคเพื่อสังเกตอาการอีโบลาเช่นกัน แม้จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครแสดงอาการใดๆ
โรเมโร ได้รับการรักษาด้วยการหยอดเซรุ่มมนุษย์ที่บรรจุแอนตีบอดีของผู้ป่วยที่รอดชีวิตจากอีโบลาและยาอื่นๆซึ่งรัฐบาลและคณะแพทย์ปฏิเสธจะเปิดเผยรายละเอียด
แม้สถานการณ์ในสเปนเริ่มดีขึ้น แต่อีกด้านหนึ่งที่สหรัฐฯ ยังคงมีความกังวลต่อการแพร่ระบาดของอีโบลา โดยรัฐบาลเผยเมื่อวันอังคาร(21ต.ค.) เหล่านักเดินทางที่มาจากไลบีเรีย เซียร์ราลีโอนและกินี จะต้องบินมายังท่าอากาศยาน 5 แห่งที่ได้ยกระดับคัดกรองอีโบลาเท่านั้น
กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ แถลงข้อจำกัดต่างๆต่อผู้โดยสารซึ่งมีต้นทางจาก 3 ชาติแอฟริกาตะวันตกที่ได้รับผลกระทบจากอีโบลาหนักหน่วงที่สุดเมื่อสัปดาห์ก่อน และมันจะมีผลบังคับใช้ในวันพุธ(22ต.ค.) อย่างไรก็ตามมาตรการนี้ไม่ถึงขั้นห้ามการเดินทางตามคำประสงค์ของเหล่าสมาชิกสภาคองเกรสบางส่วน ในความพยายามป้องกันมีผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะเพิ้มเติมในสหรัฐฯ
นักเดินทางที่มีต้นทางจาก 3 ประเทศข้างต้นจะต้องเข้ารับการตรวจวัดอุณหภูมิเพื่อดูอาการไข้ที่อาจเกิดจากติดเชื้ออีโบลา เช่นเดียวกับผ่านขั้นตอนระเบียบการต่างๆ ที่สนามบินนานาชาติจอห์น เอฟ.เคนเนดี ของนิวยอร์ก, นวร์กของนิวเจอร์ซีย์, วอชิงตัน ดัลเลส, แอตแลนตาและโอแฮร์ของชิคาโก
ท่าอากาศยาน 5 แห่งข้างต้น รองรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจาก 3 ประเทศอีโบลาสู่สหรัฐฯ คิดเป็นราวๆร้อยละ 94 ขณะที่ข้อกำหนดต่างๆครอบคลุมนักเดินทางทั้งหมดไม่มียกเว้นแม้เป็นพลเมืองอเมริกัน ทั้งนี้แม้สายการบินต่างๆของอเมริกา อย่างเช่นเดลตา แอร์ไลน์ส, ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส และอเมริกัน แอร์ไลนส์ ไม่มีเที่ยวบินตรงสู่ประเทศที่ได้รับผลกระทบ แต่ผู้โดยสารจากประเทศเหล่านั้นอาจต่อเครื่องบินมายังอเมริกา
ในขณะที่สหรัฐฯ เพิ่งจะพบผ้ติดเชื้ออีโบลาแค่ 3 คนและเสียชีวิต 1 ราย แต่ก็มีความกังวลต่อการแพร่ระบาดของไวรัสมรณะมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามในเทกซัสเมื่อวันอังคาร(21ต.ค.) ได้มีการถอดชื่อประชาชนออกจากบัญชีสังเกตอาการเพิ่มเติมอีก 60 คน หลังไม่พบอาการอีโบลาในระยะเฝ้าระวัง 21 วัน
ขณะเดียวกันผลสำรวจของกัลลับโพลที่เผยแพร่ในวันอังคาร(21ต.ค.) พบว่าอีโบลา ขยับขึ้นมาติดอันดับ 1 ใน 10 ประเด็นที่อเมริกันชนหวาดวิตกที่สุดในตอนนี้ แต่ยังคงเป็นรอง 5 ประเด็นอื่นๆ อย่างเช่นเศรษฐกิจ ความไม่พอใจต่อรัฐบาล ปัญหาการจ้างงาน ระบบประกันสุขภาพและคนเข้าเมือง