ปธน.อัฟกันป้ายแดงจ่อเยือน “จีน” เป็นชาติแรก หลังเข้ารับตำแหน่ง

เอเอฟพี - “อัชราฟ กานี” ประธานาธิบดีคนใหม่ของอัฟกานิสถานมีกำหนดการมาถึงกรุงปักกิ่งในวันนี้ (28 ต.ค.) ซึ่งจะเป็นการเปิดฉากภารกิจเยือนนาน 4 วันยังชาติยักษ์ใหญ่ผู้กระหายทรัพยากรของเอเชียแห่งนี้ครั้งแรก ในขณะที่กองกำลังขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) เตรียมจะถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถานภายในสิ้นปีนี้

กอนี ซึ่งเคยเป็นนักวิชาการอยู่ที่สหรัฐฯ ได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอัฟกานิสถานเมื่อเดือนที่แล้วในการเปลี่ยนผ่านอำนาจแบบประชาธิปไตยครั้งแรกของประเทศที่บอบช้ำจากไฟสงครามแห่งนี้

เขาร่วมทางมากับคณะผู้แทนรัฐบาลอัฟกานิสถานระดับสูง และคาดว่าจะได้พบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และผู้นำคนอื่นๆ ในปักกิ่ง ซึ่งกำลังแสวงหาโอกาสการลงทุนที่มากขึ้นในอัฟกานิสถาน

นอกจากนี้ กอนีก็จะลงนามข้อตกลงทวิภาคีจำนวนมากมาย และในวันศุกร์ (31) เขาจะเข้าร่วมการประชุม อิสตันบูล โพรเซส (Istanbul Process) การประชุมสำคัญเกี่ยวกับประเทศของเขา ซึ่งมีปักกิ่งเป็นเจ้าภาพในปีนี้

จีนมีพรมแดนติดกับภาคตะวันออกเฉียงเหนืออันห่างไกลของอัฟกานิสถานเพียง 76 กิโลเมตร แต่มีความสนใจอย่างมากในทรัพยากรแร่ของชาติเพื่อนบ้านแห่งนี้

จีนได้รับสัมปทานการทำเหมืองทองแดงและน้ำมันส่วนใหญ่อยู่แล้วในอัฟกานิถาน ซึ่งเชื่อว่ามีมูลค่าแร่มากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 32 ล้านล้านบาท)

นักวิเคราะห์ชี้ว่า การที่กานีเลือกจีนเป็นเป้าหมายแรกในการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกของเขา นับตั้งแต่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งแสดงให้เห็นว่า ผู้นำอัฟกานิสถานรายนี้กำลังให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับปักกิ่งมากยิ่งขึ้น

“การมองหาแหล่งสนับสนุนอื่นๆ เป็นสิ่งจำเป็นต่อเสถียรภาพและการพัฒนาของอัฟกานิสถาน” ฟู่ เซียวเฉียง นักวิจัยจากสถาบันความสัมพันธ์นานาชาติร่วมสมัยของจีน (China Institute of Contemporary International Relations) บอกกับหนังสือพิมพ์ โกลบอล ไทมส์ ของทางการจีน

“จีนในฐานะชาติที่มีศักยภาพมากที่สุดในประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ ต้องเป็นตัวเลือกแรกของพวกเขา” ฟู่กล่าวเสริม

อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายข้อสงสัยในเรื่องเสถียรภาพในอัฟกานิสถาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากกองทหารสหรัฐฯ ถอนกำลังออกภายในสิ้นปีนี้

ในตอนนี้มีกองกำลังต่างชาติอยู่ในอัฟกานิสถานราว 40,000 คน ลดจากช่วงจุดสูงสุดของปี 2011 ที่มียู่ราว 140,000 คน

กองกำลังของนาโต้ทั้งหมดจะออกไปจากประเทศนี้ภายในเดือนธันวาคม ปล่อยให้กองทหารและตำรวจของอัฟกานิสถานสู้รบกลุ่มกบฏตอลิบานด้วยตัวเอง

กองกำลังที่เหลือยู่ราว 12,000 คน ซึ่งประกอบด้วยทหารสหรัฐ 9,800 นาย และทหารอังกฤษ 500 นายจะยังคงอยู่ภายใต้ข้อตกลงความมั่นคงที่ กอนี ลงนาม โดยพวกเขาจะมุ่งเน้นการฝึกฝนกองกำลังท้องถิ่นและการต่อต้านก่อการร้าย

บทบาทของจีนในตะวันออกกลางกำลังถูกวิจารณ์จากบางฝักฝ่าย รวมถึงประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ซึ่งในบทสัมภาษณ์กับนิวยอร์ก ไทมส์ เมื่อเดือนสิงหาคม เขาเรียกปักกิ่งว่าเป็น “กาฝาก” ในฐานะที่ไม่ได้ทำอะไรเพื่อช่วยดับไฟแห่งความรุนแรงในภูมิภาคนี้เลย

สื่อของทางการจีนได้โต้กลับด้วยการร่ายยาวในบทบรรณาธิการที่โจมตีความคิดเห็นของโอบามาอย่างเผ็ดร้อน

“การกล่าวหาของสหรัฐฯ ซึ่งผุดมาจากที่ไหนก็ไม่ทราบ เป็นเพียงความพยายามของวอชิงตันที่จะหาแพะรับบาปให้กับนโยบายที่ล้มเหลวของตนเองในอิรัก” สำนักข่าวซินหวาของปักกิ่งเขียนเมื่อเดือนที่แล้ว