xs
xsm
sm
md
lg

ผลโพลญี่ปุ่นล่าสุดชี้ชัด คะแนนนิยมของนายกฯอาเบะ “ทรุดฮวบ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น คะแนนนิยมตกวูบขณะต้องหาทางแก้ภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่
รอยเตอร์/เอเอฟพี - ผลโพลล่าสุดที่เผยแพร่ในวันนี้ (26 ต.ค.) แสดงให้เห็นว่าคะแนนนิยมของคณะรัฐบาลนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น ได้ลดลงฮวบฮาบภายหลังการลาออกของ 2 รัฐมนตรีหญิงซึ่งเป็นที่จับตาของสาธารณชนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับเป็นการเพิ่มแรงบีบคั้นให้แก่อาเบะ ในขณะที่เขากำลังต้องดิ้นรนหนักเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจแดนอาทิตย์อุทัยซึ่งอยู่ในอาการทรุดตัว

โยมิอูริ ชิมบุง หนังสือพิมพ์ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ได้สำรวจความเห็นของตัวอย่างประชาชนจำนวน 1,059 คนโดยทางโทรศัพท์ระหว่างวันศุกร์ (24) และวันเสาร์ (25) ที่ผ่านมา และพบว่า ผู้ที่พอใจผลงานของรัฐบาลอาเบะ ได้ตกลงมาเหลือ 53% จากที่เคยอยู่ระดับ 62% เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

นอกจากนั้น ในโพลล่าสุดนี้ผู้ที่ตอบว่าไม่พอใจผลงานของรัฐบาลก็ขยับสูงขึ้นเป็น 37% จากที่มีอยู่ 30% ในการสำรวจครั้งก่อนซึ่งกระทำในวันที่ 10 ตุลาคม

“อาเบะสามารถดันคะแนนความพอใจผลงานของเขาให้กลับขึ้นไปได้ หลังจากแต่งตั้งสตรีหลายคนเข้าเป็นรัฐมนตรี ในการปรับปรุงคณะรัฐมนตรีของเขาเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทว่าในครั้งนี้เขากลับต้องพบกับการลาออกของรัฐมนตรีหญิง 2 คนซ้อน ซึ่งดึงให้คะแนนนิยมของเขาตกลงมา” โยมิอูริ อธิบายประกอบผลโพล
ยูโกะ โอบูชิ แถลงอำลาตำแหน่งรัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรม
มิโดริ มัตสึชิมะ แถลงขอลาออกจากเก้าอี้รัฐมนตรียุติธรรม
ทั้งนี้ ในการปรับปรุงคณะรัฐมนตรีเดือนกันยายน อาเบะแต่งตั้งสตรีขึ้นเป็นรัฐมนตรีถึง 5 คน ทว่าในวันจันทร์ (20) ที่แล้ว รัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรม ยูโกะ โอบูชิ และ รัฐมนตรียุติธรรม มิโดริ มัตสึชิมะ ต่างก็ขอลาออกภายหลังตกเป็นข่าวถูกกล่าวหามาหลายวันว่าพวกเธอใช้เงินกองทุนทางการเมืองอย่างไม่ถูกต้อง โดยที่ฝ่ายค้านยืนกรานว่าเข้าข่ายพยายามที่จะซื้อเสียง

ถึงแม้อาเบะพยายามแก้เกม ด้วยการรีบแต่งตั้งคนใหม่ๆ เข้าเป็นรัฐมนตรีแทน แต่ปรากฏว่า โยอิชิ มิยาซาวะ รัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรมคนใหม่ กลับกำลังเผชิญเรื่องอื้อฉาวหลังนั่งเก้าอี้ได้ไม่กี่วัน โดยที่เขายอมรับแล้วว่าลูกน้องของเขาได้นำเอาเงินของสำนักงานรณรงค์หาเสียงของเขาไปใช้หาความสำราญในบาร์แบบซาดิสต์-มาโซคิสต์

นอกจากนั้น มิยาซาวะยังเผชิญกับคำถามเรื่องที่เขาถือหุ้นจำนวนหนึ่งในบริษัทโตเกียว อิเล็กทริก พาวเวอร์ ผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ซึ่งเกิดภัยพิบัติร้ายแรง เนื่องจากงานของรัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรมนั้นครอบคลุมถึงการกำกับดูแลภาคพลังงาน และมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องการโน้มน้าวสาธารณชนผู้เต็มไปด้วยความระแวงสงสัย ให้เห็นดีเห็นงามว่ามีความปลอดภัยแล้วที่จะเริ่มเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์ของพวกโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต่างๆ ซึ่งต้องปิดไปสืบเนื่องจากวิกฤตโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะในปี 2011

ผลโพลซึ่งแสดงให้เห็นว่าคะแนนนิยมของอาเบะลงมาแรงที่สุด นับแต่ที่เขาขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 เมื่อเดือนธันวาคม 2012 คราวนี้ กำลังเพิ่มความยุ่งยากซับซ้อนให้แก่อาเบะในการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายสำคัญๆ ซึ่งต้องเผชิญแรงต่อต้านคัดค้านอย่างหนักหน่วง โดยเรื่องหนึ่งคือการเปิดใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขึ้นมาใหม่ ส่วนอีกเรื่องหนึ่งได้แก่ การเดินหน้าขยับขึ้นอัตราภาษีการขาย (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) ต่อไป

นโยบายทั้งสองเรื่องนี้ เห็นกันว่าจะส่งผลระยะสั้นและระยะยาวต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งกำลังซวนเซ โดยที่พวกนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งสำนักข่าวรอยเตอร์สำรวจสอบถาม ได้ตัดลดตัวเลขคาดการณ์อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจของปีนี้ลงมา นับเป็นการตัดลดเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน

เมื่อตอนที่อาเบะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยแรกในช่วงปี 2006-2007 เขาก็เผชิญกับเรื่องอื้อฉาวของเหล่ารัฐมนตรี ซึ่งทำให้หลายคนยื่นใบลาออก และมีคนหนึ่งฆ่าตัวตาย ตัวอาเบะเองก็ต้องอำลาตำแหน่งหลังอยู่ได้เพียง 1 ปี เมื่อเผชิญกับภาวะทางตันในรัฐสภา, คะแนนนิยมที่กำลังตกต่ำ และสุขภาพของตนเองก็ย่ำแย่
กำลังโหลดความคิดเห็น