เอเอฟพี – ตำรวจเกาหลีใต้เข้าไกล่เกลี่ยสถานการณ์หลังกลุ่มชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้พรมแดนออกมารวมตัวขัดขวางนักเคลื่อนไหวซึ่งต้องการส่งบอลลูนขึ้นไปโปรยใบปลิวโจมตีเกาหลีเหนือวันนี้(25) ส่งผลให้กิจกรรมดังกล่าวไม่สามารถเกิดขึ้นได้
การเผชิญหน้าระหว่างชาวบ้านและนักเคลื่อนไหวเกิดขึ้นที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเมืองพาจู ห่างจากกรุงโซลไปทางเหนือเพียง 40 กิโลเมตร โดยชาวบ้านราวสิบกว่าคนที่สวมหมวกปิดบังใบหน้าได้เข้าไปยึดรถบรรทุกซึ่งนักเคลื่อนไหวใช้ขนบอลลูนอากาศร้อน และใบปลิวโจมตีระบอบคิม
ตำรวจประมาณ 100 นายก็ต้องคุ้มกันนักเคลื่อนไหว 20 คนที่อยู่บนรถบัสคันหนึ่ง หลังถูกชาวบ้านพากันรุมปาไข่ และร้องตะโกนว่า “ออกไป! อย่าทำให้ชีวิตพวกเราเสี่ยงไปกว่านี้”
นักเคลื่อนไหวกลุ่มนี้เตรียมที่จะปล่อยบอลลูนอากาศร้อนเพื่อนำใบปลิวราว 40,000 ใบที่มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเกาหลีเหนือให้ลอยข้ามไปตกยังฝั่งโสมแดง
อย่างไรก็ดี เมื่อรัฐบาลเปียงยางประกาศคำขู่แก้แค้น ชาวบ้านในพื้นที่ก็ได้นำรถแทรกเตอร์มาจอดขวางถนน และติดป้ายประท้วงที่เขียนว่า “หยุดโปรยใบปลิวต่อต้านเกาหลีเหนือที่ทำให้พวกเราตกอยู่ในอันตราย” หรือ “พวกเราจะตกเป็นเหยื่อลูกปืนใหญ่ หากใบปลิวพวกนั้นถูกเผยแพร่”
หลังปักหลักยันกับชาวบ้านอยู่นานถึง 2 ชั่วโมง โดยมีการตะโกนด่าทอ และป่าวร้องสโกแกนต่อต้านโสมแดง เช่น “หยุดระบอบเผด็จการของ คิม จอง อึน” เป็นต้น ในที่สุดกลุ่มนักเคลื่อนไหวก็ต้องยอมล่าถอยไป แต่พวกเขาก็ยังไม่ล้มเลิกแผนการเสียทีเดียว โดยนำรถบัสไปจอดไว้ริมถนนที่จะเข้าสู่สวนสาธารณะ และมีนักเคลื่อนไหวบางคนยุให้พรรคพวกพยายามดูอีกสักตั้ง
แม้รัฐบาลเกาหลีใต้จะยืนยันว่านักเคลื่อนไหวเหล่านี้มีสิทธิ์ที่จะโปรยใบปลิวได้ แต่ตำรวจก็เตือนว่า เจ้าหน้าที่อาจจำเป็นต้องเข้าแทรกแซงสถานการณ์ เพื่อป้องกันมิให้มีการปะทะกับชาวบ้านในพื้นที่
สำนักข่าวยอนฮัป รายงานว่า ตำรวจปราบจลาจลกว่า 1,000 นายถูกส่งไปรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณสวนสาธารณะในวันนี้(25)
เกาหลีเหนือซึ่งเรียกนักเคลื่อนไหวกลุ่มนี้ว่าเป็น “พวกเดนมนุษย์” ได้ประณามการร่อนใบปลิวมาโดยตลอด และยังเรียกร้องให้กรุงโซลสั่งห้ามกิจกรรมเช่นนี้โดยเด็ดขาด มิเช่นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อแผนรื้อฟื้นการเจรจาระดับสูงซึ่งจะมีขึ้นในเดือนหน้า
ชาวบ้านในเมืองพาจูโอดครวญว่า คำขู่จากเกาหลีเหนือเป็นเรื่องเชื่อถือได้ และกิจกรรมของนักเคลื่อนไหวต่อต้านโสมแดงกลุ่มนี้กำลังทำให้ชีวิต ทรัพย์สิน และธุรกิจของพวกเขา ต้องตกอยู่ในอันตราย