เอเอฟพี – เกาหลีใต้ออกคำเตือนต่อเกาหลีเหนือในวันนี้ (19) ว่าอย่ากระทำการยั่วยุ “โดยไม่ยั้งคิด” อีก หลังจากการปะทะกันเล็กๆ น้อยๆ บริเวณพรมแดนหลายครั้งทำให้ความตึงเครียดทางทหารระหว่างสองแดนโสมเพิ่มสูงขึ้น ก่อนที่การเจรจาระดับสูงตามที่พวกเขาวางแผนไว้จะมีขึ้น
กองกำลังจากทั้งสองฝ่ายยิงอาวุธเบาตอบโต้กันเมื่อวานนี้ (19) หลังจากกองทหารเกาหลีใต้ยิงปืนเตือนเรือตรวจการณ์โสมแดงลำหนึ่งที่แล่นเข้ามายังเส้นแบ่งเขตทางทหาร ที่แบ่งคาบสมุทรแห่งนี้เป็น 2 ส่วน
คิม มิน-ซอก โฆษกกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ ระบุว่า “เราเตือนเกาหลีเหนืออย่างจริงจังให้หลีกเลี่ยงการยั่วยุทางทหารโดยไม่ยั้งคิด ซึ่งจะทวีความตึงเครียดระหว่าง 2 เกาหลี”
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เรือของกองทัพเรือเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้ยิงปืนเตือนตอบโต้กันใกล้กับน่านน้ำพิพาทในทะเลเหลือง สามวันต่อมา หน่วยรักษาชายแดนของทั้ง 2 ฝั่งยิงปืนกลหนักตอบโต้กัน หลังจากฝ่ายโสมแดงพยายามที่จะยิงบอลลูนที่ถูกปล่อยขึ้นมาเหนือพรมแดนพร้อมกับห่อใบปลิวต่อต้านเปียงยางให้ร่วงลงมา
เกาหลีเหนือเรียกร้องหลายครั้งให้ทางการโสมขาวห้ามไม่ให้กลุ่มนักเคลื่อนไหวจัดกิจกรรมปล่อยใบปลิว แต่โซลยืนยันว่า ไม่มีพื้นฐานทางกฎหมายสำหรับการจะทำเช่นนั้น
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สองเกาหลีได้จัดการเจรจาทางทหารเพื่อจัดการกับความตึงเครียดดังกล่าว แต่พวกเขากลับปิดการเจรจาโดยที่ไม่มีข้อตกลงใดๆ ออกมา
เหตุการณ์ปะทะที่เกิดขึ้นระหว่างพรมแดนเป็นอันตรายต่อการตัดสินใจที่จะรื้อฟื้นการเจรจาระดับสูงซึ่งถูกระงับไว้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ โดยการตัดสินใจดังกล่าวได้บรรลุในช่วงการเยือนโสมขาวอย่างน่าประหลาดใจของคณะผู้แทนระดับสูงของเกาหลีเหนือเมื่อเดือนที่แล้ว
เกาหลีใต้เสนอให้วันที่ 30 ตุลาคมเป็นวันสำหรับการเริ่มเจรจาใหม่อีกครั้ง และ ลิม บยอง-ชอล โฆษกกระทรวงรวมชาติของโซลบอกกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ (17) ว่า เขายังเชื่อว่าการเจรจาจะเดินหน้าต่อไปได้
ทั้งนี้ เนื่องจากสงครามเกาหลีช่วงปี 1950-1953 ยุติลงด้วยข้อตกลงหยุดยิงแทนที่จะเป็นสนธิสัญญา ทำให้โดยทางเทคนิคแล้วทั้ง 2 เกาหลียังคงอยู่ในภาวะสงคราม