เอเอฟพี – ต้นคริสต์มาสซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้ๆ พรมแดนเกาหลีเหนือถูกทางการโสมขาวสั่งรื้อถอนไปเรียบร้อยแล้ว หลังเผชิญเสียงประณามจากรัฐคอมมิวนิสต์ที่ไม่สนับสนุนความเชื่อทางศาสนาใดๆ มานานนับสิบปี กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แถลงวันนี้(22)
หลายปีที่ผ่านมานี้ เปียงยางเรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้เกาหลีใต้ทำลายโครงเหล็กรูปสามเหลี่ยมสูง 60 ฟุตซึ่งถูกนำไปตั้งบนเนินเขาในเขตทหาร ห่างจากเส้นพรมแดนเพียงราวๆ 3 กิโลเมตร
โสมแดงถึงขั้นเคยขู่จะยิงโครงเหล็กที่ว่านี้ทิ้ง หลังจากที่รัฐบาลโซลอนุญาตให้องค์กรพลเรือนนำหลอดไฟขึ้นไปประดับประดาในช่วงเทศกาลคริสต์มาสได้
กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ชี้แจงว่า โครงเหล็กต้นนี้ถูกรื้อถอนด้วยเหตุผลเพียงอย่างเดียวก็คือ มันมีอายุยาวนานถึง 43 ปี และไม่มั่นคงแข็งแรงแล้ว
“การตัดสินใจนี้ไม่ได้เกี่ยวกับความสัมพันธ์เกาหลีเหนือและใต้ แต่เราคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก” โฆษกกระทรวงกลาโหมโสมขาวให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี พร้อมระบุว่า งานรื้อถอนได้เริ่มมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมแล้ว
“เรายังไม่มีแผนนำโครงเหล็กต้นใหม่ไปติดตั้งแทน” โฆษกผู้นี้ยืนยัน
รัฐบาลเกาหลีใต้เคยสั่งปิดไฟต้นคริสต์มาสภายใต้ข้อตกลงลดการเผชิญหน้ากับเกาหลีเหนือเมื่อปี 2004 และยังระงับการโฆษณาชวนเชื่อผ่านเครื่องขยายเสียง และการส่งบอลลูนขึ้นไปโปรยใบปลิวโจมตีระบอบคิมด้วย
อย่างไรก็ดี ข้อตกลงดังกล่าวถูกฉีกทิ้งไปในปี 2010 หลังจากเรือรบโชนันของเกาหลีใต้ถูกตอร์ปิโดปริศนายิงจม ซึ่งกรุงโซลเชื่อแน่ว่าเป็นฝีมือเกาหลีเหนือ
การประดับไฟต้นคริสต์มาสถูกระงับในปี 2011 เพื่อให้เกียรติแก่อดีตผู้นำ คิม จอง อิล ของเกาหลีเหนือซึ่งถึงแก่อสัญกรรมลงอย่างกะทันหันในปีนั้น ต่อมาในปี 2013 ซึ่งสถานการณ์ชายแดนตึงเครียด การเปิดไฟต้นคริสต์มาสก็ถูกสั่งห้ามอีกครั้ง
เกาหลีเหนือประณามการประดับไฟต้นคริสต์มาสใกล้พรมแดนว่าเสมือนเป็นการทำ “สงครามประสาท”
เป็นที่น่าสังเกตอีกว่า โครงเหล็กเจ้าปัญหานี้ถูกรื้อถอนหลังจากที่เกาหลีเหนือส่งเจ้าหน้าที่ระดับท็อปของพรรคแรงงานไปเยือนเกาหลีใต้เมื่อต้นเดือนตุลาคม และทั้ง 2 ฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงรื้อฟื้นการเจรจาระดับสูงระหว่าง 2 รัฐบาลที่ถูกระงับไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
สิ่งเดียวที่ยังสร้างความรำคาญใจต่อโสมแดงอยู่ในขณะนี้ก็คือ “ใบปลิว” ที่พวกนักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้ส่งขึ้นบอลลูนอากาศร้อนไปโปรยในฝั่งเกาหลีเหนือ
