รอยเตอร์ - จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯเผยวันศุกร์(24ต.ค.) วอชิงตันกำลังตรวจสอบรายงานข่าวของสื่อมวลชนดังที่ระบุว่าพวกนักรบรัฐอิสลาม(ไอเอส) ใช้แก๊สคลอรีนกับกองกำลังความมั่นคงของอิรัก อาวุธเคมีร้ายแรงที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังพบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ นายเคร์รี ไม่ยืนยันรายงานข่าวของสื่อมวลชนที่ระบุว่าพวกไอเอส ใช้แก๊สคลอรีนกับตำรวจอิรักเมื่อเดือนที่แล้ว แต่บอกว่าอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ "คำกล่าวหานี้ร้ายแรงอย่างยิ่ง และเรากำลังเสาะหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อสรุปว่าเราจะยืนยันเรื่องนี้หรือไม่"
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อวันศุกร์(24ต.ค.) ว่าเมื่อเดือนที่แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจอิรัก 11 นาย ถูกรุดนำตัวส่งโรงพยาบาลแห่งหนึ่งทางเหนือของแบกแดด ด้วยอาการต่างๆนานาที่เหมือนกับคนถูกพิษแก๊สคลอรีน พร้อมกันนั้นยังเผยต่ออีกว่ากองกำลังอิรักได้รายงานเกี่ยวกับเหตุถูกโจมตีด้วยแก๊สคลอรีนอื่นๆอีก 2 ครั้ง นับตั้งแต่พวกรัฐอิสลามจู่โจมเข้ายึดครองพื้นที่อันกว้างขวางของประเทศแห่งนี้
"การใช้อาวุธเคมีใดๆคือการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และข้อกล่าวหาเหล่านี้ย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของภารกิจที่เรากำลังดำเนินการอยู่" เคร์รีกล่าว และยืนยันว่าแม้กรณีโจมตีด้วยแก๊สคอลรีนเป็นความจริง มันก็จะไม่สร้างความไขว้เขวต่อยุทธศาสตร์ของสหรัฐในการสู้รบกับพวกไอเอส "แน่นอนมันอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจทางยุทธวิธีภายในยุทธศาตร์ แต่ยุทธศาสตร์พื้นฐานของเราชัดเจนอยู่แล้ว"
สหรัฐฯและขาติมหาอำนาจตะวันตกอื่นๆ กล่าวหาประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ใช้อาวุธเข่นฆ่าพลเรือนในพื้นที่ที่ฝ่ายกบฏยึดครองอยู่ท่ามกลางสงครามกลางเมืองของซีเรีย อย่างไรก็ตามจากการทำงานระหว่างสหรัฐฯและรัสเซีย เมื่อปีที่แล้ว ดามัสกัสยินยอมกำจัดอาวุธเคมีของตนเองทั้งหมด ภายใต้การตรวจสอบขององค์การห้ามอาวุธเคมี
ทั้งนี้องค์การห้ามอาวุธเคมี ได้เข้าสืบสวนเกี่ยวกับการใช้แก๊สคลอรีนโจมตีในซีเรียเช่นกัน และพบว่ามีความเสี่ยงที่อาวุธเคมีบางส่วนอาจตกอยู่ในมือพวกหัวรุนแรงที่เข้าร่วมกับนักรบรัฐอิสลาม
เวลานี้พันธมิตรนานาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ เดินหน้าถล่มทาอากาศใส่ฐานที่มั่นต่างๆของนักรบญิฮัดสุหนี่กลุ่มนี้มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ในความพยายามสกัดกั้นการรุกคืบยึดครองดินแดนบริเวณกว้างคร่อมระหว่างซีเรียและอิรัก เพื่อสถาปนารัฐอิสลามที่ปกครองด้วยระบบคอลีฟะห์หรือกาหลิบ
