เอเอฟพี - มูลนิธิมรดกขั้วโลกใต้ (Antarctic Heritage Trust) ของนิวซีแลนด์ระบุว่า สมุดบันทึกของคณะนักเดินทางสำรวจขั้วโลกใต้ ภายใต้การนำของ โรเบิร์ต สกอตต์ นักเดินทางชาวอังกฤษผู้โชคร้าย ถูกพบภายหลังแช่อยู่ในก้อนน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกาอันเย็นยะเยือกมานานนับศตวรรษ
บันทึกเล่มนี้เป็นของ จอร์จ เมอร์เรย์ เลวิก นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ และถูกค้นพบนอกจุดพักแรม เตร์ราโนวา 1991 ของสกอตต์ ขณะน้ำแข็งละลายในฤดูร้อน เมื่อปีที่แล้ว
ไนเจล วัตสัน ผู้อำนวยการบริหารมูลนิธิมรดกขั้วโลกใต้ระบุว่า ลายมือในบันทึกเล่มนี้ยังอยู่ในสภาพที่อ่านได้ โดยปรากฏชื่อของ เลวิก ในหน้าแรกๆ แต่หน้ากระดาษเริ่มหลุดออกจากกัน เพราะชำรุดเสียหายจากการแช่ในน้ำแข็งและน้ำมานานหลายปีดีดัก
เขาชี้ว่า “การค้นพบครั้งนี้เป็นเรื่องน่าตื่นเต้น สมุดบันทึกเล่มนี้คือส่วนที่ขาดหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์การเดินทางสำรวจอย่างเป็นทางการ”
“หลังจากใช้เวลา 7 ปีสงวนรักษาสถานที่ และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่สกอตต์ได้ใช้ระหว่างการออกสำรวจครั้งสุดท้ายในชีวิต เราก็รู้สึกยินดีที่ยังได้พบมรดกชิ้นใหม่ๆ”
วัตสัน กล่าวว่า หน้ากระดาษของสมุดเล่มนี้ถูกส่งไปยังนิวซีแลนด์ และแยกเก็บไว้ต่างหาก จากนั้นจะถูกนำไปเข้าเล่มใหม่ และส่งกลับไปยังทวีปแอนตาร์กติกา ซึ่งเป็นสถานที่ที่มูลนิธินี้กำลังดูแลสถานที่ทั้ง 5 แห่งที่นักสำรวจ สกอตต์, เออร์เนสต์ แชกเคิลตัน และเอ็ดมันด์ ฮิลลารีเคยใช้
หลังจากเดินทางไปถึงทวีปแอนตาร์ติกา คณะนักสำรวจของสกอตต์ถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม โดยกลุ่มของหัวหน้าคณะเดินทางไปถึงขั้วโลกใต้เมื่อวันที่ 17 มกราคม 1912 แต่ก็ต้องพบว่า โรอัลด์ อามุนด์เซน นักสำรวจชาวนอร์เวย์ เดินทางไปถึงก่อนหน้าพวกเขา 1 เดือนเท่านั้น
เลวิก ซึ่งเป็นเจ้าของสมุดบันทึกเล่มนี้นั้น อยู่ในคณะสำรวจอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งออกสังเกตการณ์ทางวิทยาศาสตร์ตามแนวชายฝั่ง แต่กลับติดแหงกออกมาจากจุดพักแรมไม่ได้ เมื่อก้อนน้ำแข็งที่จับตัวหนาขวางไม่ให้พวกเขาขึ้นเรือเพื่อร่วมเดินทางไปกับสกอตต์
ในเวลาต่อมา สกอตต์และเพื่อนร่วมทางของเสียชีวิตความหนาวเย็นและขาดแคลนอาหาร
ส่วนชายทั้ง 6 คนในกลุ่ม เลวิก สามารถเอาชีวิตรอดในฤดูหนาวอันโหดร้ายด้วยการขุดน้ำแข็งให้เป็นโพรง แล้วประทังชีวิตด้วยการกินสัตว์ประจำถิ่น เช่น เพนกวิน และแมวน้ำ