เกิดเหตุรุนแรงหลายระลอกทั้งในลิเบีย-อียิปต์ เจ็บตายนับสิบ

เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-เกิดเหตุรุนแรงหลายระลอก ซึ่งรวมถึงเหตุระเบิดฆ่าตัวตายบริเวณจุดตรวจแห่งหนึ่งในเมืองเบงกาซีของลิเบีย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในเบื้องต้นอย่างน้อย 11 คนในวันพุธ (22 ต.ค.) ขณะเดียวกันเกิดเหตุโจมตีโดยฝีมือพวกอิสลามิสต์บริเวณด้านนอกมหาวิทยาลัยไคโรในวันเดียวกัน เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 9 ราย

เหตุนองเลือดล่าสุดที่เกิดขึ้นในเบงกาซีของลิเบียส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตในเมืองแห่งนี้ได้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 110 คนแล้วนับตั้งแต่ที่กองกำลังภายใต้การนำของ “คาลิฟา ฮัฟตาร์” อดีตนายพลแห่งกองทัพลิเบีย เปิดการโจมตีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อกวาดล้างพวกนักรบอิสลามิสต์กลุ่ม “อันซาร์ อัล-ชาเรีย” ที่บุกเข้ายึดเมืองสำคัญทางภาคตะวันออกของประเทศแห่งนี้ ตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

รายงานข่าวระบุว่า เหตุรุนแรงหลายครั้งที่เกิดขึ้นในวันพุธ (22 ต.ค.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย โดยในจำนวนนี้มี 7 รายที่ถูกนำร่างไปยังศูนย์การแพทย์เบงกาซี (บีเอ็มซี) ส่วนร่างผู้เสียชีวิตอีก 4 รายถูกนำไปยังโรงพยาบาลแห่งอื่นในพื้นที่

หนึ่งในเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น คือ เหตุโจมตีโดยมือระเบิดฆ่าตัวตายรายหนึ่ง ที่ขับรถซึ่งบรรทุกระเบิดจำนวนมากพุ่งเข้าใส่จุดตรวจของกองกำลังฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาลในเขตดาเรียนา ที่อยู่ห่างจากเมืองเบงกาซีไปทางตะวันออกราว 40 กิโลเมตรเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในจุดนี้ 1 รายและได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 4 ราย

ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่ากลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรง “อัญนาด มีเซอร์” ได้ก่อเหตุโจมตีด้วยระเบิดบริเวณทางเข้า ด้านนอกมหาวิทยาลัยไคโรในวันเดียวกัน เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 9 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีตำรวจรวมอยู่ด้วย 5 นาย

โดยกลุ่มหัวรุนแรงดังกล่าวเปิดเผยผ่านทวิตเตอร์อ้างตัวเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ และระบุว่า เหตุโจมตีที่เกิดเป็นการแก้แค้นตำรวจอียิปต์ที่ทำการปราบปรามการเคลื่อนไหวของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศเป็นเหตุให้มีนักศึกษา 1 รายถูกยิงเสียชีวิตระหว่างการปะทะกับตำรวจที่มหาวิทยาลัยอเล็กซานเดรีย

ทั้งนี้ กลุ่มหัวรุนแรงดังกล่าวได้ก่อเหตุโจมตีในหลายพื้นที่ทั่วอียิปต์อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา รวมถึงเหตุระเบิดที่จุดตรวจด้านนอกกระทรวงต่างประเทศ และศาลแห่งหนึ่งในกรุงไคโร

โดยการโจมตีส่วนใหญ่จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารตกเป็นเป้าสังหาร และทางกลุ่มประกาศจะเดินหน้าก่อเหตุรุนแรงต่อไป เพื่อตอบโต้ที่รัฐบาลชุดปัจจุบันของแดนไอยคุปต์ได้อำนาจมาจากการทำรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลอิสลามิสต์ของโมฮาเหม็ด มอร์ซี และกลุ่มภราดรภาพมุสลิมเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ที่ทำให้มีผู้สนับสนุนรัฐบาลอิสลามิสต์ถูกจับกุมไปอย่างน้อย 15,000 คน และมีมากกว่า 200 คนที่ถูกตัดสิน “ประหารชีวิต”