เอเจนซีส์ – ฮันเตอร์ ไบเดน วัย 44 ปี บุตรชายของ โจ ไบเดน รองประธานาธิบดีสหรัฐฯถูกปลดออกจากการเป็นทหารกองหนุนประจำกองทัพเรือสหรัฐฯในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาหลังตรวจพบสารเสพติด “โคเคน” ในร่างกาย
เอบีซี สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า แหล่งข่าวภายในที่เชื่อถือได้ให้ข้อมูลว่า ฮันเตอร์ ไบเดน วัย 44 ปี บุตรชายของโจ ไบเดน รองประธานาธิบดีสหรัฐฯไม่ผ่านการตรวจปัสสาวะในเดือนมิถุนายน 2013 ก่อนที่เขาจะถูกสั่งปลดออกจากกองทัพเรือสหรัฐฯ
“ถือเป็นเกียร์ติของผมที่ได้มีโอกาสรับใช้กองทัพเรือสหรัฐฯ แต่ผมรู้สึกเสียใจและอับอายในพฤติกรรมที่น่าละอายของตนเองจนเป็นผลทำให้ถูกสั่งปลดในครั้งนี้” ไบเดนกล่าวผ่านแถลงการณ์ที่ทนายความของเขาเป็นผู้เผยแพร่ และไบเดนยังแถลงต่อไปว่า “ผมขอเคารพการตัดสินใจของกองทัพเรือสหรัฐฯ และด้วยความรักและการให้กำลังใจจากครอบครัว ผมจะยังเดินหน้าต่อไป”
แหล่งข่าวยังให้ข้อมูลกับเอบีซีว่า ไบเดนนั้นได้รับการปฎิบัติจากกองทัพเหมือนอย่างเช่นนายทหารคนอื่นๆได้รับ
ไบเดนในวัย 44 ปีได้รับการยกเว้นในเรื่องข้อจำกัดทางอายุในการเข้าสมัครเป็นทหารกองหนุน รวมไปถึงข้อยกเว้นจากการที่เขาเคยเสพยาเสพติดเมื่ออายุยังน้อย
ในขณะที่โฆษกกองทัพเรือสหรัฐฯออกมายืนยันว่า ฮันเตอร์ ไบเดนถูกสั่งปลดจริง แต่เกิดจากการละเมิดข้อบังคับแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเนื่องมาจากสาเหตุใด
“เรือตรี ฮันเตอร์ ไบเดนถูกเลือกผ่านโครงการ Direct Commission Officer ในปี 2012” โฆษกกองทัพเรือสหรัฐฯไรอัน เพอร์รี (Ryan Perry)แถลง และเสริมว่า “ในเดือนมิถุนายน เรือตรีไบเดนถูกสั่งให้สังกัดกองกำลังสำรอง Navy Public Supports Element East ที่นอร์ฟอล์ก รัฐเวอร์จิเนีย และได้ถูกสั่งปลดจากทหารกองหนุนในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายทหารนายนี้เหมือนเช่นทหารยศระดับล่างทั่วไป ที่ข้อมูลการถูกสั่งปลดจะไม่เปิดเผยเนื่องจากภายใต้กฎหมายคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคล”
โดยในปีที่ผ่านมา ฮันเตอร์ ไบเดนตกเป็นข่าวทั่วโลกหลังจากได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในสมาชิกบอร์ดบริหารบริษัทบูริสมา โฮลดิงส (Burisma Holdings) บริษัทเอกชนผลิตแก๊สธรรมชาติยักษ์ใหญ่ของยูเครน ซึ่งก่อนหน้าที่เขาจะถูกรับเลือก รองประธานาธิบดีสหรัฐฯผู้เป็นพ่อได้เดินทางไปเยือนยูเครนเพื่อสนับสนุนประชาธิปไตยที่เปราะบางของยูเครนในขณะนั้น
ฮันเตอร์ ไบเดน สำเร็จการศึกษาในคณะกฏหมายที่มหาวิทยาลัยเยล และได้ทำงานในบอร์ดที่ปรึกษาของประธานในสถาบันประชาธิปไตยแห่งชาติ (National Democratic Institute ) โดยในช่วงปี 2013 ไบเดนดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์นโยบายแห่งชาติ และการร่วมเป็นพันธมิตรการนำในระดับโลกของสหรัฐฯ(Center for National Policy And US Global Leadership Coalition)ที่มีสมาชิก 400 คน รวมไปถึงนักธุรกิจ Ngo เจ้าหน้าที่ความมั่นคงสหรัฐฯในระดับสูง และผู้เชี่ยวชาญนโยบายต่างประเทศ
นอกจากนี้ยังพบว่า อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตันได้เคยแต่งตั้งให้ไบเดนดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการบริหารของนโยบายอี-คอมเมิร์ซ และอีกทั้งไบเดนได้รับแต่งตั้งเป็นประธานร่วมกิตติมศักดิ์ของคณะกรรมการเข้ารับตำแหน่งของโอบามา-ไบเดนปี 2008