xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำฮ่องกงแบะท่าพร้อมเจรจานักศึกษา นสพ.ดังกลับลำเรียกร้องยุติชุมนุม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ฮวงซุ้ย” ของ เหลียง ชุนอิง ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง ซึ่งพวกผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย จัดทำขึ้นมาในบริเวณที่ชุมนุม เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงว่าบุคคลผู้นี้ได้ “ตาย” ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ในวันพฤหัสบดี (16) เหลียงออกมาแถลงว่าทางการฮ่องกงพร้อมที่จะเริ่มการเจรจากันใหม่กับผู้นำนักศึกษาที่ประท้วง โดยอาจจะเป็นในสัปดาห์หน้า
เอเจนซีส์ - เหลียง ชุนอิง (ซี วาย เหลียง) ผู้บริหารสูงสุดของเกาะฮ่องกง ประกาศในวันพฤหัสบดี (16 ต.ค.) ว่า พร้อมเริ่มเจรจากับแกนนำนักศึกษาอีกครั้งโดยอย่างเร็วที่สุดน่าจะเกิดขึ้นได้ในสัปดาห์หน้า แต่ยังคงย้ำว่า ทางการแผ่นดินใหญ่ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงหลักการการเลือกตั้งผู้นำฮ่องกง ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ ที่เคยเชียร์การประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยมาตลอด กลับโน้มน้าวให้ยุติการชุมนุม เนื่องจากมองไม่เห็นทางว่า ปักกิ่งจะยอมตามข้อเรียกร้องของผู้ประท้วง

เหลียงแถลงว่า ตราบใดที่นักศึกษาหรือภาคส่วนอื่นๆ ในฮ่องกงยังคงมุ่งมั่นกับประเด็นการเลือกตั้งเสรี รัฐบาลก็พร้อมเริ่มการหารือโดยเร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นสัปดาห์หน้า

อย่างไรก็ตาม เหลียงไม่ได้ตอบตรงๆ ว่าเมื่อใดตำรวจจะเข้าสลายการชุมนุมที่มีการยึดถนนสำคัญหลายสายในย่านธุรกิจตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน เพียงแต่บอกว่า เจ้าหน้าที่ใช้ความอดกลั้นกับอารยะขัดขืนของผู้ประท้วงมาจนถึงขณะนี้ แต่คงไม่สามารถปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่มีกำหนด เนื่องจากส่งผลกระทบต่อสังคม แต่ตำรวจจะจัดการกับปัญหานี้ด้วยวิธีการที่เหมาะสม

ก่อนหน้านี้ ในปลายสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลฮ่องกงสร้างความเดือดดาลให้ผู้ประท้วง เมื่อประกาศยกเลิกการเจรจาหารืออย่างเป็นทางการกับแกนนำนักศึกษา ด้วยเหตุผลว่าไม่คิดว่าการหารือจะได้ผลลัพธ์ที่สร้างสรรค์ ภายหลังที่พวกแกนนำนักศึกษาและผู้ประท้วงอื่นๆ ป่าวประกาศระดมผู้สนับสนุนให้ออกมาช่วยสร้างแรงกดดันในเวลาที่จะมีการเจรจากัน

สำหรับที่มาของการประท้วงครั้งนี้คือ ความไม่พอใจในข้อเสนอของรัฐสภาจีนปักกิ่งเมื่อเดือนสิงหาคมที่ว่า การเลือกตั้งผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองพิเศษฮ่องกงครั้งต่อไปในปี 2017 จะเปลี่ยนจากที่เคยให้คณะกรรมการที่คัดสรรมาซึ่งมีสมาชิกไม่กี่พันคนเป็นผู้เลือก และให้ประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงทุกคนได้ไปใช้สิทธิลงคะแนน อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะลงสมัครได้ต้องผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการชุดหนึ่งเสียก่อน ทั้งนี้พวกผู้ประท้วงกำลังเรียกร้องต้องการได้ประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์แบบ

ในเรื่องนี้ เหลียงกล่าวย้ำว่าปักกิ่งจะไม่เปลี่ยนจุดยืน กระนั้นขอบเขตการเจรจากับนักศึกษาอาจอยู่ที่ประเด็นการตั้งคณะกรรมการที่ทำหน้าที่เสนอชื่อผู้สมัคร

สถานการณ์การเผชิญหน้าระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่กลับมาตึงเครียดมากขึ้นตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้ หลังจากที่ตำรวจได้ขอเปิดพื้นที่ชุมนุมบางส่วน ด้วยเหตุผลว่าเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรที่ติดขัดเป็นอัมพาต ทว่าหลังจากนั้นพวกผู้ประท้วงก็พยายามหาทางขยายพื้นที่อีก

โดยเฉพาะในวันตอนดึกวันอังคาร (14) พวกผู้ชุมนุมได้บุกเข้าไปยึดอุโมงค์ทางรถยนต์ 4 เลน บริเวณด้านหน้าศูนย์ราชการในเขตแอดมิรัลตี้ ซึ่งเป็นเส้นทางไปสู่เขตเซนทรัล ย่านศูนย์กลางการเงินของฮ่องกง อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา นั่นคือในช่วงก่อนรุ่งสางวันพุธ (15) ตำรวจจึงยกกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่ โดยมีการใช้สเปรย์พริกไทย พร้อมกระบองและโล่ผลักดันพวกนักเคลื่อนไหว รวมทั้งจับกุมพวกเขาไปหลายสิบคน

ทว่าสิ่งที่ทำให้ผู้คนไม่พอใจอย่างมาก ได้แก่คลิปวิดีโอซึ่งมีผู้ถ่ายไว้และนำออกเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ “ทีวีบี” ในวันพุธ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตำรวจนำผู้ประท้วงคนหนึ่งไปรุมซ้อมในมุมมืด จนกระทั่งสำนักงานตำรวจต้องรีบแถลงว่า ได้สั่งพักงานและสอบสวนตำรวจ 7 นายที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว

ในช่วงก่อนรุ่งสางของวันพฤหัสบดี (16) ก็มีผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งเข้าปิดกั้นถนนสายสำคัญสายหนึ่งในบริเวณใกล้ๆ กับที่ทำงานของเหลียง และตำรวจได้เข้าขัดขวางและเคลียร์พื้นที่โดยมีการใช้สเปรย์พริกไทยฉีดใส่ผู้ประท้วงด้วย

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เหลียงปกป้องว่า ตำรวจฮ่องกงดำเนินการด้วยความอดกลั้นมากกว่าในอีกหลายประเทศ

ปักกิ่งนั้นประณามการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงคราวนี้ ซึ่งถือเป็นความท้าทายใหญ่หลวงที่สุดนับจากเกาะแห่งนี้คืนกลับจากการเป็นอาณานิคมของอังกฤษสู่อ้อมอกจีนในปี 1997 เนื่องจากเกรงว่า กระแสการเรียกร้องประชาธิปไตยจะลุกลามสู่แผ่นดินใหญ่

อย่างไรก็ตาม ไม่มีสัญญาณว่าจีนมีแผนเข้าแทรกแซงโดยตรงกับการประท้วงฮ่องกง จะมีก็แต่เพียงสื่อของรัฐที่ออกมาประณามการประท้วงเป็นระยะ

ขณะเดียวกัน นอกจากจำนวนผู้ร่วมชุมนุมบางตาลงอย่างชัดเจนแล้ว ผู้คนในบางภาคส่วนในฮ่องกงยังเริ่มหมดความอดทนต่อการประท้วงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในหมู่เจ้าของร้านค้าและคนขับแท็กซี่ที่รายได้หดหายไปถนัดตาจากการปิดถนนชุมนุมยืดเยื้อ

ในวันพุธ ลี กาชิง มหาเศรษฐีร่ำรวยที่สุดในเอเชีย ซึ่งเป็นเจ้าสัวใหญ่ทรงอิทธิพลของฮ่องกง ได้ออกมาแถลงเรียกร้องให้บรรดาผู้ประท้วงกลับบ้าน หลังจากที่เขาปิดปากเงียบไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ มาโดยตลอด

ต่อมาวันพฤหัสบดี หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์รายวันภาษาอังกฤษที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดบนเกาะฮ่องกง ออกบทบรรณาธิการเรียกร้องให้ผู้ประท้วงคืนพื้นผิวจราจรให้แก่สังคม และถอยหลับไปทบทวนกลยุทธ์ใหม่ โดยให้เหตุผลว่า มีความหวังน้อยมากที่ปักกิ่งจะยอมตามข้อเรียกร้องของผู้ประท้วง
กำลังโหลดความคิดเห็น