เอเจนซีส์ - ตำรวจฮ่องกงถูกรุมประณาม หลังสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเผยแพร่คลิปตำรวจนอกเครื่องแบบหลายคน ลากผู้ประท้วงคนหนึ่งเข้าไปซ้อมในมุมมืด ระหว่างการบุกยึดพื้นที่บางส่วนคืนจากผู้ชุมนุมเมื่อตอนก่อนรุ่งสางวันพุธ (15 ต.ค.) ทางด้านผู้บัญชาการตำรวจแถลงในเวลาต่อมาว่า ได้สั่งย้ายตำรวจทั้งหมดที่ปรากฏในคลิปแล้ว และให้เปิดการสอบสวนทันที ขณะเดียวกัน ลี กาชิง เจ้าสัวคนสำคัญที่สุดของฮ่องกง ได้ออกมากล่าวเรียกร้องให้บรรดาผู้ประท้วงกลับบ้านไปหาครอบครัว
หลังจากฝ่ายตำรวจอาศัยช่วงก่อนรุ่งสางของวันจันทร์ (13) และวันอังคาร (14) เข้าทำลายเครื่องกีดขวางบางส่วนและเบียดยึดพื้นที่จำนวนหนึ่งคืนจากผู้ชุมนุม โดยอ้างเหตุผลว่าเพื่อบรรเทาปัญหาจราจรที่ติดขัดมากในช่วงกลางวัน ทว่า ฝ่ายผู้ประท้วงก็พยายามตอบโต้เอาคืน โดยในตอนดึกวันอังคารนั้นพวกเขาได้แห่กันเข้าไปในอุโมงค์ทางรถยนต์ขนาด 4 เลน บริเวณหน้าศูนย์ราชการในเขตแอดมิรัลตี้ และจัดตั้งเครื่องกีดขวางต่างๆ
ต่อมาในช่วงก่อนรุ่งสางวันพุธ ตำรวจจำนวนมากที่มีทั้งโล่ กระบอง และสเปรย์พริกไทย ก็ดาหน้าเข้าหากลุ่มผู้ชุมนุมที่คอยป้องกันอยู่หน้าอุโมงค์ ใช้สเปรย์พริกไทยฉีดและกอดรัดฟัดเหวี่ยงจับกุมตัวผู้ประท้วงที่พยายามขัดขวาง จนพวกเขาถอยร่นไป จากนั้นจึงบุกเข้าเคลียร์พื้นที่ภายในอุโมงค์
ตำรวจแถลงว่าในการปฏิบัติการคราวนี้ได้จับกุมผู้กระทำผิดไป 45 คน เป็นชาย 37 และหญิง 8 ขณะที่เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 4 คน โดยในการปฏิบัติการมีการใช้กำลังน้อยที่สุด
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาสถานีโทรทัศน์ “ทีวีบี” ได้เผยแพร่วิดีโอข่าวซึ่งแสดงให้เห็นตำรวจนอกเครื่องแบบ 7 คน ลากผู้ประท้วงคนหนึ่งที่ถูกจับใส่กุญแจมือ เข้าไปประเคนทั้งหมัดและเท้าในมุมมืดของสวนสาธารณะนาน 4 นาที
หลังเกิดเหตุ สมาชิกสภานิติบัญญัติและนักเคลื่อนไหวได้ออกมาเปิดเผยว่า ผู้ประท้วงที่ถูกตำรวจซ้อมชื่อ เคน จาง ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคการเมืองที่เรียกร้องประชาธิปไตย ขณะที่เจ้าตัวเปิดเผยผ่านทนายความว่า ได้ถูกตำรวจตบอีกระหว่างอยู่ที่สถานีตำรวจ และนักเคลื่อนไหวได้โชว์ภาพซังที่มีรอยช้ำทั้งบนใบหน้าและหลัง
โจชัว หว่อง แกนนำนักศึกษาประณามว่า ความไว้ใจระหว่างตำรวจกับนักเคลื่อนไหวขณะนี้ตกต่ำถึงขีดสุด
ขณะที่องค์การนิรโทษกรรมสากลร่วมประณามว่า การกระทำดังกล่าวชั่วช้าน่าสะอิดสะเอียน เนื่องจากตำรวจทำตัวเหนือกฎหมาย พร้อมเรียกร้องให้เปิดการสอบสวนและนำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว
ก่อนหน้านี้ ตำรวจเคยถูกวิจารณ์รุนแรงมาแล้วครั้งหนึ่งตอนที่ใช้แก๊สน้ำตายิงใส่ผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 28 กันยายน และเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวฮ่องกงที่โกรธแค้นออกมาร่วมชุมนุมเป็นเรือนหมื่น ก่อนที่จะหดหายไปจนเหลือหลักร้อย
ไหล ถังกว๊อก รัฐมนตรีความมั่นคงของฮ่องกงพยายามผ่อนคลายสถานการณ์ ด้วยการแถลงว่า จะดำเนินการสอบสวนอย่างยุติธรรม และขณะนี้ ตำรวจทั้ง 7 นายที่ปรากฏภาพในวิดีอข่าวถูกย้ายแล้ว
ต่อมาในวันพุธนั้นเอง ลี กาชิง เศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย และเป็นประธานของ เฉิงคง (โฮลดิงส์) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ ซึ่งไม่เคยแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับการชุมนุมประท้วงคราวนี้ต่อสาธารณชนมาก่อนเลย ได้ยุติการปิดปากเงียบด้วยการออกคำแถลงว่า ถ้าหากหลักนิติธรรมของฮ่องกงต้องถูกทำลายไป ก็จะเป็น “ความน่าเสียใจอันใหญ่หลวงที่สุด” ของนครแห่งนี้
“ตั้งแต่ที่มีการส่งมอบอำนาจ สูตร “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ได้คอยปกป้องคุ้มครองวิถีชีวิตของฮ่องกงเรื่อยมา” ลี ระบุ โดยอ้างอิงถึงสูตรการปกครองนครแห่งนี้ ซึ่งจีนสัญญาที่จะใช้เป็นเวลา 50 ปี ตั้งแต่ที่ได้อังกฤษส่งคืนฮ่องกงให้แก่จีนในปี 1997
“ผมขอเรียกร้องทุกๆ คนอย่าได้สร้างความปั่นป่วน ผมขอเรียกร้องทุกๆ คนอย่าปล่อยให้อารมณ์ความรู้สึกของวันนี้ต้องกลับกลายเป็นความเศร้าเสียใจสำหรับวันพรุ่งนี้ ผมใคร่ขอร้องอย่างจริงจังให้ทุกๆ คนกลับบ้านไปหาครอบครัวของพวกเขา” ลีระบุในคำแถลง
ทางด้านสื่อมวลชนของทางการปักกิ่ง ในวันพุธได้ออกมาประณามโดยใช้ถ้อยคำรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่มีการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง โดยระบุว่าการประท้วงเป็นการกระทำผิดกฎหมาย เลวร้ายต่อธุรกิจและผลประโยชน์ของฮ่องกงเอง
ในบทบรรณาธิการหน้าหนึ่งฉบับวันพุธของหนังสือพิมพ์เหรินหมินรึเป้า กระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้โจมตีผู้ประท้วงว่า กำลังมุ่งหน้าสู่ความวิบัติ
“ข้อเท็จจริงและประวัติศาสตร์บอกเราว่า การกระทำรุนแรงและผิดกฎหมายรังแต่นำไปสู่กิจกรรมผิดกฎหมายร้ายแรงมากขึ้น ทำให้สังคมวุ่นวายและเกิดความสับสนอลหม่าน”
ย้อนกลับไปเมื่อวันอังคาร (14) ในงานเลี้ยงของสมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกง จาง เสี่ยวหมิง ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานของรัฐบาลจีนในฮ่องกง ได้กล่าวว่า การประท้วงคราวนี้เป็นเหตุการณ์ร้ายแรงทางสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเป็นการท้าทายอำนาจของปักกิ่ง
“ผู้ประท้วงกำลังทำลายทั้งหลักนิติธรรม พัฒนาการด้านประชาธิปไตย ภาพลักษณ์ของฮ่องกงในสายตาชาวโลก และความสัมพันธ์ระหว่างฮ่องกงกับแผ่นดินใหญ่” จางยังเรียกร้องให้ยุติการชุมนุมโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้พลเมืองฮ่องกงต้องสูญเสียไปมากกว่านี้
สำหรับ เหลียง ชุนอิง ผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองพิเศษฮ่องกงที่ก่อนหน้านี้ระบุว่า การประท้วงอยู่นอกเหนือการควบคุมของพวกแกนนำแล้ว ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ฝ่ายผู้บริหารฮ่องกงนั้นยินดีเจรจากับผู้ประท้วง แต่ย้ำว่าปักกิ่งจะไม่ยอมผ่อนคลายเงื่อนไขในเรื่องการเลือกตั้งผู้นำฮ่องกงเด็ดขาด นอกจากนี้ เหลียงยังยกเลิกการประชุมเพื่อตอบข้อซักถามกับสภานิติบัญญัติฮ่องกง ที่กำหนดไว้ในวันพฤหัสบดี ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย