รอยเตอร์ – เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.3 แมกนิจูดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (13) โดยมีศูนย์กลางอยู่นอกชายฝั่งเอลซัลวาดอร์และนิการากัว และสะเทือนจนรู้สึกได้ทั่วทั้งแถบอเมริกากลาง โดยคร่าชีวิตประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 1 ราย แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายที่รุนแรง
หน่วยงานฉุกเฉินของเอลซัลวาดอร์ แถลงว่า บ้านเรือนหลายสิบหลังในจังหวัดอูซูลูตังได้รับความเสียหายเล็กน้อย แต่ระบุว่า พื้นที่ชายฝั่งยังคงสงบเงียบ และสนามบินนานาชาติก็ไม่ได้รับผลกระทบ
วิลเฟรโด ซัลกาโด นายกเทศมนตรีเมืองซานมิเกลในเอลซัลวาดอร์ ระบุในทวิตเตอร์ของเขาว่า มีชายคนหนึ่งเสียชีวิตเพราะถูกเสาไฟฟ้าล้มทับ
ซีโอมารา อามายา วัย 30 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในจังหวัดอูซูลูตัง กล่าวว่า “มันรุนแรงมากจริงๆ บ้านทั้งหลังเกิดสั่นไหวในทันที”
สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) รายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดที่ความลึกประมาณ 40 กิโลเมตร โดยมีศูนย์มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองจิกวิลิลโลในนิการากัวไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 67 กิโลเมตร และห่างจากรุงซานซัลวาดอร์ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 174 กิโลเมตร
หน่วยงานฉุกเฉินในนิการากัว , ฮอนดูรัส , กัวเตมาลา และปานามา ระบุว่า พวกเขาไม่ได้รับรายงานความเสียหายหรือผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ โรซาริโอ มูริลโล โฆษกประธานาธิบดีนิการากัว เตือนให้ชาวบ้านแถบชายฝั่งหาทางขึ้นที่สูงในกรณีที่เกิดสึนามิ
ศูนย์เตือนภัยสึนามิภูมิภาคแปซิฟิก ได้ออกประกาศเตือนเบื้องต้นว่า อาจเกิดคลื่นสึนามิในภูมิภาคนี้ แต่ต่อมาระบุว่า ไม่มีความเสี่ยงแล้ว
เมื่อปี 2001 เคยเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขึ้น 2 ครั้งแบบเดือนเว้นเดือน คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 1,150 คน และทำให้ประชาชนหลายแสนกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย
เมื่อ 2 ปีที่แล้ว มีแผ่นดินไหวขนาด 7.3 แมกนิจูดเกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิกฟิกนอกชายฝั่งเอลซัลวาดอร์ กระตุ้นให้เกิดการเตือนภัยสึนามิชั่วคราว แต่ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงหรือผู้บาดเจ็บล้มตาย