เอเอฟพี - ประเทศต่างๆ ทั่วโลกวานนี้ (11 ต.ค.) ระดมกำลังกันยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมรณะ “อีโบลา” ที่เจ้าหน้าที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ออกโรงเตือนว่า สถานการณ์กำลังเลวร้ายลงไปทุกที ขณะที่ท่าอากาศยานเจเอฟเค ซึ่งเป็นสนามบินหลักในนครนิวยอร์กเตรียมคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมาจากภูมิภาคแถบแอฟริกาตะวันตก ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงที่สุด
และที่มาดริด พยาบาลชาวสเปนที่มีอาการรุนแรง และเป็นคนแรกที่ติดเชื้อนอกทวีปแอฟริก่าเริ่มมีอาการทุเลาลง
องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า นับตั้งแต่ต้นปีมามีประชาชนใน 7 ประเทศจากเชื้ออีโบลาไปแล้วกว่า 4,000 คน และดูเหมือนว่าการโรคนี้จะระบาดลุกลามอย่างรวดเร็วจนแซงหน้าความพยายามที่จะยับยั้ง
แอนโธนี บันบิวรี ผู้อำนวยการภารกิจควบคุมอีโบลาในสถานการณ์ฉุกเฉิน ขององค์การสหประชาชาติ กล่าวกับบรรดาผู้นำยูเอ็นว่าภายหลังการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมในไลบีเรีย กินี และเซียร์ราลีโอน ซึ่งเป็นประเทศที่มีการแพร่ระบาดรุนแรงที่สุดว่า “ไวรัสชนิดนี้แพร่ระบาดแซงหน้าเราไปไกล และสถานการณ์ทุกวันนี้ก็เลวร้ายลง”
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (ซีดีซี) ระบุว่า ที่ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ เคนเนดี ในนิวยอร์ก ผู้โดยสารและลูกเรือที่เดินทางมาจากทั้งสามประเทศ ที่เป็นจุดศูนย์กลางการแพร่ระบาดจะต้องถูกตรวจวัดอุณหภูมิ ดูอาการ และตอบคำถามเพื่อตรวจสอบว่าพวกเขามีโอกาสสัมผัสโรคมาก่อนหรือไม่
ซีดีซีระบุในคำแถลงว่า “การคัดกรองผู้โดยสารขาออกอาจไม่สามารถตรวจพบทุกคนที่ติดเชื้ออีโบลา อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนนี้ไม่จำเป็นต้องช่วยลดการแพร่ระบาดของอีโบลาได้อย่างสมบูรณ์แบบ” ในสัปดาห์หน้า ท่าอากาศยานสำคัญอีก 4 แห่งในสหรัฐฯ ก็จะเริ่มคัดกรองนักเดินทางแบบเดียวกัน
ในชาติแถบละตินอเมริกา เปรู และอุรุกวัยได้ประกาศมาตรการคัดกรองที่สนามบิน ขณะที่เม็กซิโก และนิการากัว ได้วางแผนจะควบคุมการเดินทางของผู้อพยพที่กำลังมุ่งหน้าไปสหรัฐฯ ให้เข้มงวดกวดขันโดยถือเป็นแนวทางป้องกันเชื้ออีโบลา
ขณะที่มีกระแสหวาดวิตกว่าเชื้อไวรัสชนิดนี้จะแพร่ระบาดไปทั่วโลก วานนี้ (11) มีสองประเทศที่ออกมารายงานว่า ผู้ต้องสัย 2 รายในประเทศไม่ได้ติดเชื้ออีโบลา
กระทรวงสาธารณสุขบราซิลรายงานว่า ผลการตรวจเลือดหาเชื้ออีโบลาของชายชาวกินีที่พวกเขาสงสัยเป็นลบ
ทางการมาซิโดเนียแถลงว่า ผลตรวจชี้ว่าชายชาวอังกฤษคนหนึ่งที่เสียชีวิตด้วยอาการคล้ายอีโบลานั้นไม่ได้ติดเชื้อชนิดนี้
ที่สเปน ความสนใจยังคงจับจ้องไปที่ เทเรซา โรเมโอ พยาบาลวัย 44 ปีที่มีอาการทุเลาลงเมื่อคืน โดยแหล่งข่าวที่โรงพยาบาลเปิดเผยกับเอเอฟพีว่า ตอนนี้เธอรู้สึกตัวและสามารถพูดคุยได้เป็นครั้งคราว เมื่ออารมณ์ดี
ทั้งนี้ คาดว่าโรเมโอได้ติดเชื้อไวรัสมรณะเมื่อปลายเดือนกันยายน ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงมาดริด ขณะที่เธอให้การรักษามิชชันนารีชาวสเปน ที่ติดเชื้ออีโบลาในแอฟริกาและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นอกจากนี้ ยังมีคนอีก 15 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ตลอดจนสามีของโรเมโอกำลังเข้ารับการสังเกตอาการที่โรงพยาบาลการ์โลสที่ 3 ซึ่งโรเมโอนอนพักอยู่ โดยโรงพยาบาลนี้ระบุว่ายังไม่มีใครแสดงอาการของโรค