เอเจนซีส์ - กลุ่มต่อต้านจำนวนหลายร้อยคน พากันบุกรื้อสิ่งกีดขวางในย่านศูนย์กลางของฮ่องกงเมื่อวันจันทร์ (13 ต.ค.) จึงเกิดการตะลุมบอนกับนักศึกษาผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งชุมนุมยึดถนนสำคัญเอาไว้หลายสาย จนพื้นที่จำนวนมากของนครศูนย์กลางการเงินเอเชียแห่งนี้กลายเป็นอัมพาตมากว่าสองสัปดาห์ ขณะเดียวกัน ผู้ว่าการฮ่องกงยืนยันว่า ใช้ความอดกลั้นอย่างสูงกับการประท้วง แต่คงไม่สามารถปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อยาวนานได้
ฉากเหตุการณ์ความปั่นป่วนวุ่นวายในย่านศูนย์กลางของฮ่องกงคราวนี้บังเกิดขึ้น หลังจากในตอนเช้ามืดวันจันทร์ ซึ่งปกติแล้วเป็นช่วงที่มีผู้ชุมนุมบางตาที่สุด ตำรวจได้นำกำลังมาขนย้ายสิ่งกีดขวางบางส่วนออกเพื่อบรรเทาการจราจรติดขัดในถนนสำคัญหลายสาย แต่ประกาศให้ผู้ประท้วงชุมนุมต่อได้
การเผชิญหน้ากันในคราวนี้ เป็นการตอกย้ำให้เห็นความตึงเครียดไม่พอใจที่เพิ่มทวีขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงที่นำโดยนักศึกษา กับฝ่ายเจ้าหน้าที่ทางการ รวมทั้งชาวบ้านชาวเมืองกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากการชุมนุมประท้วง ที่ส่งผลให้การจราจรเป็นอัมพาต และธุรกิจต่างๆ ได้รับความเสียหาย
เจ้าหน้าที่รับผิดชอบของฮ่องกงได้เรียกร้องครั้งแล้วครั้งเล่าให้พวกผู้ชุมนุมประท้วงถอยออกไปจากท้องถนน ทว่าเหล่าผู้นำนักศึกษายังคงยืนกรานที่จะชุมนุมกันต่อจนกว่ารัฐบาลจะยินยอมทำตามข้อเรียกร้องของพวกเขา อันได้แก่ การปฏิเสธข้อเสนอของรัฐสภาจีนที่จะให้การเลือกตั้งผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงครั้งต่อไปในปี 2017 แทนที่จะให้คณะกรรมการชุดหนึ่งเป็นผู้เลือกตามแบบเดิม ก็ให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคนเป็นคนเลือก ทว่าผู้ที่มีสิทธิลงแข่งขันได้ต้องผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการเสนอชื่อชุดหนึ่งเสียก่อน ทั้งนี้ผู้ประท้วงต้องการให้มีการลงสมัครกันอย่างเปิดกว้างด้วย
นอกจากนั้น ทางฝ่ายผู้ประท้วงยังเรียกร้องให้ เหลียง ชุนอิง หรือ ซีวาย เหลียง ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงคนปัจจุบัน ลาออกจากตำแหน่ง
ในวันจันทร์ ได้มีกลุ่มชายสวมหน้ากากอนามัยจำนวนราว 20 คน ได้บุกเข้ามากระชากทำลายแผงกั้นโลหะที่ผู้ประท้วงวางเอาไว้ ชายเหล่านี้ ซึ่งใช้มีดคัตเตอร์ตัดกล่อง เข้าตัดทำลายสายไฟที่ผูกเชื่อมแผงกั้นให้ติดกัน ได้ปะทะกับผู้ประท้วง ตลอดจนตำรวจซึ่งพยายามหยุดยั้งคนเหล่านี้
จากนั้น ก็มีฝูงชนผู้โกรธเกรี้ยวจำนวนหลายร้อยคนเดินทางไปยังไปยังพื้นที่ชุมนุมและพยายามสลายการชุมนุม พวกเขาชูกำปั้นและตะโกนว่า “เปิดถนน!”
ขณะเดียวกัน พวกคนขับแท็กซี่หลายสิบคนที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการชุมนุม ก็ได้เข้าช่วยกันรื้อแนวรั้วกั้นจุดหนึ่ง พร้อมนำแท็กซี่ไปจอดหน้าแนวรั้ว บีบแตร และประกาศเส้นตายให้ผู้ประท้วงนำสิ่งกีดขวางทั้งหมดออกจากถนนทุกสายภายในเย็นวันพุธ (15)
หลังจากนั้น แถวตำรวจได้เข้ากดดัน จนทำให้ฝูงชนที่บุกเข้ามาถอยออกไป และตำรวจยังพยายามแยกให้คนเหล่านี้อยู่ห่างออกจากผู้ประท้วงซึ่งออกันอยู่ในอีกด้านหนึ่งของแนวเครื่องกีดขวาง
ตำรวจเปิดเผยภายหลังว่า ได้จับกุมชายสวมหน้ากาก 3 คน อายุ 18-47 ปี เนื่องจากสงสัยว่า พกพาอาวุธและทำร้ายผู้อื่น
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนในเฉพาะหน้านี้ว่า ใครเป็นผู้จัดการชุมนุมฝูงชนที่ต่อต้านการประท้วง แต่ก็มีผู้ชุมนุมประท้วงบางคนประณามว่าเป็นฝีมือของพวกแก๊งอั้งยี่มาเฟีย รวมทั้งระบุว่าตำรวจมีการประสานกับคนเหล่านี้ และจงใจเข้ามารักษาความสงบอย่างล่าช้า
“คนจากเขตนิวเทอริทอรี่ส์ พวกผู้สนับสนุนริบบิ้นน้ำเงิน (ปักกิ่ง) แก๊งมาเฟีย และคนขับแท็กซี่ ต้องมีคนบางกลุ่มชักใยอยู่ โดยมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี เพราะคนเหล่านี้กระจายไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อให้ผู้ประท้วงสับสนวุ่นวาย” ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งแสดงความเห็น
นอกจากนั้น พวกเขายังอ้างว่ากลุ่มต่อต้านการประท้วงบางคนพูดภาษากวางตุ้งไม่ได้ พูดได้แต่ภาษาจีนกลาง บ่งชี้ว่า คนเหล่านี้ไม่ใช่ชาวฮ่องกง
ขณะเดียวกัน สถานีวิทยุแห่งหนึ่งของฮ่องกงได้เปิดเผยคลิปเสียงที่ระบุว่า เป็นเสียงของคนขับแท็กซี่คนหนึ่งกำลังคุยเรื่องการว่าจ้างจัดม็อบไปร่วมต่อต้านผู้ประท้วงในราคาหัวละ 2,000 ดอลลาร์ฮ่องกง กระนั้น ยังไม่มีการตรวจสอบยืนยันที่มาของคลิปนี้ และไม่เป็นที่ชัดเจนว่า เงินค่าจ้างดังกล่าวมาจากใครหรือกลุ่มใด
ทางด้าน ผู้ว่าการ เหลียง ซึ่งเดินทางไปยังนครกว่างโจว ของจีนเมื่อวันจันทร์ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่นั่น โดยเขายืนยันไม่ลาออก และว่า เจ้าหน้าที่ดำเนินการกับการประท้วงด้วย “ความอดกลั้นอย่างสูง”
กระนั้น เหลียงเลี่ยงที่จะตอบว่า รัฐบาลฮ่องกงจะสลายการชุมนุมเมื่อใด เพียงบอกว่า ฮ่องกงคงไม่สามารถปล่อยให้สถานการณ์นี้ยืดเยื้อยาวนานได้
ขณะเดียวกัน นอกจากจำนวนผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยจะมีจำนวนบางตาลงเรื่อยๆ แล้ว ชาวฮ่องกงจำนวนมาก รวมถึงภาคธุรกิจ ยังแสดงความไม่พอใจมากขึ้นกับความสะดุดติดขัดต่างๆ ที่เกิดจากการยึดพื้นที่สาธารณะของผู้ชุมนุม