ผู้ชุมนุมฮ่องกงเดินหน้าประท้วงหลังรบ.ล้มโต๊ะเจรจา แต่จำนวนเข้าร่วมถดถอย

เอเอฟพี - ผู้ประท้วงฝักใฝ่ประชาธิปไตยหลายพันคนรวมตัวบนท้องถนนของฮ่องกงอีกครั้งในค่ำคืนวันศุกร์(10ต.ค.) ตามเสียงเรียกร้องของแกนนำ หลังจากแผนเจรจากับรัฐบาลพังครืนลง อย่างไรก็ตามจำนวนของผู้เข้าร่วมน้อยกว่าการชุมนุมช่วงสัปดาห์ที่แล้วเป็นอย่างมาก ขณะที่เหล่าแกนนำตะเกียกตะกายรักษาแรงขับเคลื่อนของการชุมนุม

ผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่ของเมืองที่ได้รับการหนุนหลังจากปักกิ่งมีกำหนดเจรจาหาทางออกในวันศุกร์(10ต.ค.) แต่แผนดังกล่าวมีอันต้องพังครืนลงในวันพฤหัสบดี(9ต.ค.) หลังจากรัฐบาลถอนตัวจากโต๊ะหารือ โดยกล่าวโทษผู้ประท้วงกรณีที่ขู่ยกระดับการชุมนุม

การตัดสินใจดังกล่าวของรัฐบาลฮ่องกง ฉุดให้วิกฤตการเมืองที่ห้อมล้อมศูนย์กลางทางการเงินของเอเชียแห่งนี้เลวร้ายลงไปอีก ด้วยคาดหมายว่ามันจะเป็นชนวนกระตุ้นให้เกิดการชุมนุมใหญ่อีกครั้ง หลังจากการประท้วงที่ผ่านมาได้ทำให้พื้นที่บางส่วนของเขตบริหารพิเศษต้องเป็นอัมพาตนานเกือบ 2 สัปดาห์

เหล่าผู้ชุมชุมเรียกร้องสิทธิในการเลือกตั้งอย่างเป็นสากลโดยสมบูรณ์ ภายหลังจากที่สภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ หรือรัฐสภาของจีน มีมติเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า ในการเลือกตั้งผู้ว่าการฮ่องกงครั้งต่อไปในปี 2017 ชาวฮ่องกงจะสามารถใช้สิทธิเลือกผู้บริหารของตนได้โดยตรง ทว่า ผู้สมัครที่จะลงแข่งขันได้จะถูกคัดกรองโดยคณะกรรมการชุดหนึ่งซึ่งเข้าใจกันว่าเป็นพวกโปรปักกิ่งเสียก่อน ซึ่งเหล่าผู้ประท้วงมองว่ามันเป็นประชาธิปไตยจอมปลอม

ในการประท้วงช่วงค่ำวันศุกร์(10ต.ค.) ประชาชนราว 7,000 คนรวมตัวกันบริเวณที่ชุมนุมหลัก แผ่ขยายออกไปจนถึงถนนหลวงฝั่งตรงข้ามศูนย์บัญชาการใหญ่ของรัฐบาลเมือง อย่างไรก็ตามจำนวนฝูงชนนั้นน้อยกว่าการชุมนุมใหญ่คราวก่อนๆอยู่มาก แต่ขณะเดียวกันผู้ชุมนุมก็เริ่มจัดตั้งอุปกรณ์ต่างๆที่คล้ายจะปักหลักอยู่ยาว ไม่ว่าจะเป็นเตนท์ ห้องอาบน้ำเคลื่อนที่หรือแม้แต่เตียงนอนชั่วคราว "ฉันจะอยู่ที่นี่จนกว่ารัฐบาลจะยอมคุยกับเรา" ยูกิ ลอว์ นักศึกษาพยาบาลวัย 21 ปีบอกกับเอเอฟพี

แกนนำนักศึกษาในวันศุกร์(10ต.ค.) กล่าวโทษรัฐบาลต่อการถอนตัวจากโต๊ะเจรจา และยืนยันว่ายังเปิดทางสำหรับทางหาทางออกที่เป็นทางสายกลาง แต่ประกาศว่าจะเดินหน้ายึดพื้นที่บางส่วนของฮ่องกงต่อไป แม้เริ่มมีเสียงไม่พอใจจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมมากขึ้นเรื่อยๆ

นักวิเคราะห์เตือนว่าการเจรจาที่พังครืนอาจผลักให้เหตุเผชิญหน้ากันระหว่างผู้ประท้วงประชาธิปไตยและรัฐบาลเข้าสู่ระยะอันตราย ด้วยทั้งสองฝ่ายไม่มีทีท่าจะยอมถอยหลังกับ "ตอนนี้มันเป็นสัญญาณไม่ดี อุณหภูมิร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ" ซันนี โล นักวิเคราะห์การเมืองจากสถาบันการศึกษาฮ่องกงกล่าว

อย่างไรก็ตามไมเคิล เดอโกลเยอร์ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยฮ่องกงบัปติสต์ บอกว่าหากตำรวจไม่กระทำรุนแรง ดูเหมือนความเคลื่อนไหวประท้วงจุดติดขึ้นมาได้ยาก นอกจากนี้แล้ว ด้วยที่ชาวฮ่องกงจำนวนมากเริ่มหมดความอดทนหลังต้องเผชิญกับความยุ่งเหยิงมานานหลายวัน ทั้งรัฐบาลและแกนนำผู้ชุมนุมก็ถูกกดดันหนักขึ้นเรื่อยๆให้คลี่คลายภาวะทางตันนี้