เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ผลสำรวจชี้ ชาวฮ่องกงกว่าครึ่งหนึ่งเริ่มเอนเอียงยอมรับวิธีการเลือกตั้งหัวหน้าคณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงในปี 2560 ซึ่งยอมให้รัฐบาลปักกิ่งเป็นผู้คัดเลือกผู้ลงชิงตำแหน่ง
การสำรวจครั้งนี้จัดทำขึ้นในช่วงปลายเดือนก.ค. ที่ผ่านมา โดยนักวิจัยของมหาวิทยาลัยหลิงหนัน ในหัวข้อว่า ชาวฮ่องกงต้องการให้มีการเลือกตั้งแบบหนึ่งเสียงกาได้เบอร์เดียว ( one-man, one-vote election) ในการเลือกตั้งหัวหน้าคณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงปี 2560 อยู่อีกหรือไม่ แม้จะไม่พอใจกระบวนการเสนอชื่อผู้ลงสมัครแข่งขันของรัฐบาลจีนก็ตาม โดยมีการสำรวจความเห็นกันทางโทรศัพท์
จากจำนวนผู้ถูกสำรวจทั้งหมด 1,017 คน พบว่า ร้อยละ 55 ยอมรับ และร้อยละ 36.5 ไม่ยอมรับ ที่เหลือเป็นพวกที่ไม่แน่ใจ โดยผลสำรวจนี้คล้ายคลึงกับการสำรวจเมื่อเดือนพ.ค. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคำถามเดียวกัน
นอกจากนั้น ยังพบว่า ความเห็นของชาวฮ่องกงเกี่ยวกับวิธีการเลือกตั้งดังกล่าวเริ่มมีการแบ่งขั้วกันอย่างชัดเจนมากขึ้น โดยผู้ถูกสำรวจ ซึ่งเคยเป็นกลางและไม่เลือกข้างทั้งฝ่ายนักการเมืองที่สนับสนุนจีน และฝ่ายที่สนับสนุนประชาธิปไตย เริ่มจะเอนเอียงสนับสนุนวิธีการเลือกตั้ง ซึ่งชาวฮ่องกงไม่พอใจนี้ และเริ่มมีความเห็นเดียวกับฝ่ายสนับสนุนจีนมากขึ้น โดยพบว่า คนกลุ่มนี้ยอมรับวิธีการเลือกตั้งนี้ถึงร้อยละ 61.3 ซึ่งมากกว่าเมื่อเดือนพ.ค. ซึ่งมีร้อยละ 50.6
ในขณะที่พวกสนับสนุนประชาธิปไตยเริ่มแข็งกร้าวมากขึ้น และพร้อมจะปฏิเสธระบบการเลือกตั้ง ที่ไม่น่าพอใจนี้เช่นกัน ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะทำให้สังคมฮ่องกงเกิดการเผชิญหน้ากันมากขึ้น
การสำรวจครั้งนี้จัดทำขึ้นตามการมอบหมายของกลุ่มนักธุรกิจและผู้ประกอบวิชาชีพ ซึ่งมีชื่อว่า กลุ่มผู้เกี่ยวข้องในเรื่องความเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ ( Concern Group for Public Opinion on Constitutional Reform ) กลุ่มนี้มีสมาชิก 15 คน ซึ่งรวมทั้งผู้ก่อตั้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์เซนทาไลน์ ( Centaline) โดยมีการเผยแพร่ผลสำรวจในวันเดียวกับที่นายจาง เสี่ยวหมิง ผู้อำนวยการสำนักงานติดต่อประสานงานในฮ่องกงของรัฐบาลจีน ได้ออกมาย้ำว่า รัฐบาลปักกิ่งมีสิทธิ์เหนือเขตปกครองพิเศษแห่งนี้ในการป้องกันความไม่สงบวุ่นวายต่าง ๆ
การเผยแพร่ผลสำรวจยังมีขึ้นในวันเดียวกับการเปิดโครงการรณรงค์ของคณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ที่เรียกร้องให้ชาวฮ่องกงปัดความเห็นต่าง มารักษาการเลือกตั้งในปี 2560 ให้เกิดขึ้นให้ได้เสียก่อน
นอกจากนั้นยังเป็นการเผยแพร่ก่อนหน้าที่สภาผู้แทนประชาชนของจีนจะตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางการปฏิรูปของฮ่องกงในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าอีกด้วย