เอเอฟพี/รอยเตอร์/ASTVผู้จัดการ - พยาบาลผู้ช่วยที่รักษาคนไข้อีโบลา 2 คนที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งของมาดริด ถูกพบติดเชื้อไวรัสมรณะนี้เสียเอง เจ้าหน้าที่เผยสาธารณสุขสเปนเผยเมื่อวันจันทร์ (6 ต.ค.) กลายเป็นบุคคลแรกที่ติดเชื้อโรคร้ายในยุโรป ขณะที่เหล่าสายการบินสหรัฐฯนัดหารือเพิ่มเติมมาตรการคัดกรองนักเดินทาง หลังพบผู้ป่วยคนแรกในประเทศเล็ดลอดการตรวจตราเข้ามา อย่างไรก็ตามทางทำเนียบขาวยืนยันไม่ถึงขั้นห้ามนักเดินทางจากเหล่าชาติที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด
“เราได้ดำเนินการตรวจโรคแล้ว 2 ครั้ง และทั้ง 2 ครั้งผลออกมาเป็นบวก” โฆษกของกระทรวงสาธารณสุขรัฐบาลแคว้นมาดริดบอกกับเอเอฟพี ขณะที่ เมอร์เซเดส วินูเอซา ผู้อำนวยกรมอนามัยของสเปน แถลงในเวลาต่อมา “เธอคือมืออาชีพด้านสาธารณสุขที่ให้การดูแลผู้ติดเชื้อที่ถูกส่งกลับประเทศมารักษาตัวยังโรงพยาบาลการ์ลอสที่ 3” พร้อมบอกว่าได้กำหนดระเบียบการฉุกเฉินแล้วและเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการพิสูจน์หาแหล่งแพร่เชื้ออยู่
พยาบาลรายดังกล่าวเป็นผู้ให้การดูแล มานูเอล การ์เซีย เบียโฮ บาทหลวงวัย 69 ปีที่โรงพยาบาลกษัตริย์การ์ลอสที่ 3 ในกรุงมาดริด ที่ติดเชื้ออีโบลาระหว่างปฏิบัติภารกิจที่เซียร์ราลีโอน และถูกส่งกลับมารักษาตัวในสเปน แต่ เบียโฮ เสียชีวิตหลังจากนั้นแค่ 2 วัน นับเป็นบาทหลวงสเปนรายที่ 2 ที่อำลาโลกจากไวรัสมรณะชนิดนี้ ต่อจากสาธุคุณมิเกล พาฮารัส วัย 75 ปี ซึ่งได้รับเชื้อขณะปฏิบัติหน้าที่ในไลบีเรีย และถูกส่งกลับมารักษาที่สเปนเช่นกัน
ข่าวการพบผู้ติดเชื้อคนแรกในสเปน เกิดขึ้นไม่นานหลังจากสหรัฐฯพบคนไข้อีโบลาในประเทศคนแรกเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน หลังก่อนหน้านี้มีพลเมืองแดนลุงแซมติดเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้หลายคน แต่ทั้งหมดซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ ล้วนล้มป่วยในแอฟริกาตะวันตกและถูกส่งตัวกลับมารักษายังมาตุภูมิ
ทั้งนี้ ในวันจันทร์ (6 ต.ค.) โฆษกโรงพยาบาลเทกซัส เฮลธ์ เพรสไบทีเรียน เปิดเผยว่าผู้ติดเชื้ออีโบลารายแรกในสหรัฐฯ เวลานี้อาการยังวิกฤต แต่ก็ได้รับยารักษาไวรัสมรณะชนิดนี้ที่ยังอยู่ในขั้นทดลองแล้ว
ดอคเตอร์โธมัส ไฟรเดน ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (ซีดีซี) เปิดเผยว่า นายโธมัส เอริค ดันแคน ซึ่งถูกวินิจฉัยในดัลลัสว่าติดเชื้ออีโบลาเมื่อสัปดาห์ก่อน ยังอยู่ในอาการวิกฤต ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดกับประชาชน 10 คนที่มีการสัมผัสโดยตรงกับนายดันแคนและถูกมองว่าอยู่ในข่ายกลุ่มเสี่ยงที่สุด อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้คนเหล่านั้นยังไม่แสดงอาการใดๆ
ในขณะเดียวกัน เครื่องบินส่วนตัวที่บรรทุก นายอาโชคา มุคโป วัย 33 ปี นักข่าวช่างภาพอิสระชาวอเมริกันของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีในสหรัฐฯ ซึ่งติดเชื้ออีโบลาขณะทำงานในแอฟริกาตะวันตก ลงจอดในเมืองโอมาฮา มลรัฐเนแบรสกาแล้ว และเขาถูกพาตัวขึ้นรถฉุกเฉินนำส่งศูนย์การแพทย์เนแบรกา เพื่อรักษาไวรัสรณะนี้ต่อไป
ยอดผู้เสียชีวิตจากอีโบลาใน 3 ชาติแอฟริกาตะวันตก ได้แก่ ไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน และ กินี ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงตอนนี้ไวรัสมณะคร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 3,439 ศพ นับตั้งแต่มันเริ่มแพร่ระบาดในเดือนมีนาคม จากจำนวนผู้ติดเชื้อเกือบ 7,500 คน ทั้งนี้ นอกเหนือจาก 3 ประเทศดังกล่าวแล้ว ยังพบผู้ป่วยอีโบลาที่ไนจีเรียและเซเนกัลด้วย แต่เชื่อว่าสามารถควบคุมมันได้แล้ว ขณะที่สหรัฐฯพบผู้ติดเชื้อในประเทศรายแรกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ด้วยที่ นายดันแคน เพิ่งล้มป่วยหลังเดินทางจากไลบีเรียมายังเทกซัสเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน จึงก่อความกังวลอย่างมากในหมู่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐฯ และประชาชนทั่วไปว่าการแพร่ระบาดของอีโบลาครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์อาจแผ่ลามออกจากแอฟริกาตะวันตก
นายดันแคน เดินทางมาถึงเทกซัสเมื่อวันที่ 20 กันยายน จากนั้นในอีก 6 วันต่อมาเขาก็มีอาการป่วย และเข้ารักษาตัวที่ โรงพยาบาลเทกซัส เฮลท์ เพรสไบทีเรียน โฮสพิทอล ดัลลัส หลังผ่านการประเมินอาการขั้นต้น เขาได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้โดยแพทย์ให้ยาปฏิชีวนะไปทาน แต่อีก 2 วันต่อมาเขากลับเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกครั้งหลังอาการแย่ลง โดยคราวนี้เพิ่งถูกกักตัว ปฏิบัติการอันล่าช้าที่ถูกตั้งคำถามจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขคนอื่นๆ
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐฯ บอกว่า กำลังใช้ทุกมาตรการเพื่อรับประกันว่าไวรัสอีโบลาจะมีแพร่ระบาดอย่างกว้างขวางในสหรัฐฯและแสดงความเชื่อมั่นว่าจะสามารถยับยั้งมันได้ ในขณะที่กลุ่มสายการบินสหรัฐฯจะพบปะหารือกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและความปลอดภัยในวันจันทร์ (6 ต.ค.) เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ในการเพิ่มเติมความเข้มงวดในการคัดกรองหาตัวนักเดินทางที่อาจติดเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้
อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวชี้แจงว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ไม่ได้พิจารณาถึงการแบนนักเดินทางที่มาจากเหล่าประเทศที่ได้รับผลกระทบ “มาตรการห้ามเดินทางไม่ใช่สิ่งที่เรากำลังพิจารณาอยู่ในตอนนี้” จอช เออร์เนสต์ บอกกับผู้สื่อข่าว “เรายังรู้สึกดีกับมาตรการต่างๆ ที่ใช้อยู่ในตอนนี้”