เอเอฟพี - กองทัพออสซีระบุในวันจันทร์ (6 ต.ค.) ว่าเครื่องบินรบของออสเตรเลียได้ออกบินปฏิบัติภารกิจสู้รบครั้งแรกต่อกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้ใช้การโจมตีทางอากาศ
พลอากาศเอก มาร์ค บินสกิน ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันตนเองออสเตรเลีย ระบุว่า เครื่องบินรบ เอฟ/เอ 18 จำนวน 2 ลำ ได้กลับมาถึงฐานอย่างปลอดภัยหลังออกปฏิบัติภารกิจ
คำแถลงของกองกำลังฯ ระบุว่า เครื่องบินรบซูเปอร์ฮอร์เน็ตได้ออกปฏิบัติภารกิจยับยั้งและตัดกำลังสนับสนุนของกลุ่มไอเอสในภาคเหนือของอิรักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา โดยได้รับคำสั่งให้โจมตีได้หากพบเป้าหมาย แต่ในคราวนี้เครื่องบินรบทั้งสองลำยังไม่มีโอกาสได้ใช้อาวุธโจมตี และได้บินกลับฐานเพื่อปลดอาวุธและเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจครั้งต่อไป
นับเป็นปฏิบัติการสู้รบกับเหล่านักรบญิฮัดด้วยเครื่องบินขับไล่ครั้งแรกของออสเตรเลีย หลังจากที่เมื่อวันศุกร์ (3 ต.ค.) รัฐบาลออสซีได้อนุมัติให้โจมตีกลุ่มไอเอสในอิรัก
ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในแนวร่วมนานาชาติที่ดำเนินการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มไอเอส ที่เริ่มเปิดฉากโดยสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ออสเตรเลียได้จำกัดขอบเขตของปฏิบัติการเอาไว้แค่เฉพาะในอิรัก เช่นเดียวกับกองกำลังของฝรั่งเศส อังกฤษ เดนมาร์ก เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ขณะที่สหรัฐอเมริกาและเหล่าพันธมิตรชาติอาหรับ ได้ใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มไอเอสในซีเรีย
อดีตผู้บัญชาการกองทัพบกออสเตรเลีย "ปีเตอร์ ลีไฮ" ระบุว่า ถือเป็นเรื่องปกติที่เครื่องบินรบจะกลับฐานโดยที่ไม่ได้ทำการโจมตีใดๆ
"คุณควรคาดหวังให้มันเป็นเช่นนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เราต้องการลดความเสียหายข้างเคียงให้น้อยที่สุด เราไม่อยากจะโจมตีผิดเป้าหมาย" เขาบอกกับสถานีโทรทัศน์เอบีซี
ลีไฮ ระบุอีกว่า สิ่งที่เห็นได้จากกลุ่มไอเอสตลอดช่วงสัปดาห์ที่แล้วก็คือ ความพยายามที่จะทำให้ตัวเองตกเป็นเป้าได้ยากขึ้น พวกเขากระจายกำลังไม่อยู่เป็นกลุ่มก้อน มีการดัดแปลงรูปแบบของการพรางตัว พวกเขาเคลื่อนกำลังกลับเข้าไปในเมือง แล้วพยายามรักษาพื้นที่เอาไว้