เอพี – เกาหลีเหนือสร้างความประหลาดใจอีกครั้งด้วยการส่ง “ผู้นำเบอร์สอง” พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงเดินทางไปเกาหลีใต้ในวันนี้(4) เพื่อเข้าร่วมพิธีปิดกีฬาเอเชียนเกมส์ ณ เมืองอินชอน ขณะที่สองเพื่อนบ้านคู่อริจะมีการเจรจาระดับสูงสุดในรอบ 5 ปีด้วย
ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ที่ตึงเครียดมานานหลายเดือนหลังจากการประณามกันไปมาและการทดสอบยิงขีปนาวุธจากฝั่งเกาหลีเหนือหลายระลอก ทำให้การพบปะกันครั้งนี้ยังไม่ถูกคาดหวังมากนัก แต่ถึงกระนั้นการที่ก็ถือเป็นโอกาสพิเศษที่ไม่เกิดขึ้นบ่อย
หัวหน้าคณะผู้แทนเกาหลีเหนือที่เดินทางมายังเมืองอินชอนครั้งนี้คือ ฮวาง เปียง-โซ ประธานคณะกรรมาธิการกลาโหมแห่งชาติเกาหลีเหนือ ซึ่งถือเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมืองระดับสูงสุดของกองทัพโสมแดง และถูกมองโดยนักวิเคราะห์ต่างชาติว่าเป็นบุคคลที่มีอำนาจสูงสุดรองจากผู้นำ คิม จอง อึน
การเยือนของเจ้าหน้าที่โสมแดงครั้งนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางกระแสข่าวลือเกี่ยวกับสุขภาพของผู้นำคิม ซึ่งไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชนมาตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน และยังไม่เข้าร่วมการประชุมสมัชชาประชาชนสูงสุดซึ่งเป็นกิจกรรมที่ คิม ไม่เคยพลาดมาก่อนตั้งแต่ก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำเกาหลีเหนือเมื่อปลายปี 2011
ภาพข่าวเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเผยให้เห็นว่า คิม เดินขากะเผลกและอ้วนขึ้นเป็นพิเศษ ขณะที่สำนักข่าวเคซีเอ็นเอก็ยอมรับว่า ท่านผู้นำมีอาการ “ไม่สบาย”
เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือและใต้ได้สนทนากันชั่วระยะเวลาสั้นๆ เมื่อช่วงเช้า โดย ลิม บยอง ชอลโฆษกกระทรวงการรวมชาติเกาหลีใต้ ให้สัมภาษณ์ว่า คณะเจ้าหน้าที่โสมแดงจะได้พบปะพูดคุยกับ ริว คิล-แจ รัฐมนตรีกระทรวงการรวมชาติ และ คิม ฮวาน-จิน ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้ ระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน จากนั้นจะเดินทางกลับเกาหลีเหนือในช่วงค่ำวันนี้(4)
การพูดคุยโดยตรงระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ 2 เกาหลีครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ พัค กึน-ฮเย ก้าวขึ้นเป็นหัวหน้ารัฐบาลเกาหลีใต้เมื่อต้นปี 2013 โดยก่อนหน้านี้เคยมีการเจรจาในลักษณะนี้เมื่อปี 2009
หัวข้อการสนทนาครั้งนี้ยังไม่ถูกเปิดเผย ขณะที่ ลิม ระบุว่า เจ้าหน้าที่โสมแดงไม่มีกำหนดการเข้าพบประธานาธิบดีหญิงของเกาหลีใต้
ชอง ซอง-ชาง นักวิเคราะห์จากสถาบันเซจองในเกาหลีใต้ มองว่าการเจรจาครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่าง 2 เพื่อนบ้าน และหากไม่มีความคืบหน้าใดๆ เกิดขึ้น ก็เป็นไปได้ว่า ภาวะตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศจะยังดำเนินต่อไปจนกว่าประธานาธิบดี พัค จะดำรงตำแหน่งครบวาระ 5 ปี
ชอง ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้แทนเกาหลีเหนืออาจนำสารบางอย่างจากผู้นำคิมมาแจ้งต่อฝ่ายเกาหลีใต้ และในขณะเดียวกันก็ต้องการแสดงให้เห็นว่า คิม ยังกุมอำนาจตัดสินใจทางการเมือง และไม่ได้ล้มป่วยหนักตามที่เป็นข่าว