เอเอฟพี – จำนวนผู้ติดเชื้อโปลิโอรายใหม่ๆ ในปากีสถานพุ่งสูงสุดในรอบ 14 ปี หลังทีมสาธารณสุขซึ่งเดินทางเข้าไปแจกจ่ายวัคซีนตามชนบทห่างไกลมักถูกกลุ่มก่อความไม่สงบซุ่มโจมตี
เจ้าหน้าที่อาวุโสจากสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติในกรุงอิสลามาบัด ให้สัมภาษณ์วานนี้(3)ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในปีนี้เกินกว่า 199 ราย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดที่บันทึกไว้เมื่อปี 2000
“ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เราพบผู้ติดเชื้อใหม่ถึง 15 ราย และปีนี้มีผู้ป่วยโปลิโอเพิ่มขึ้นแล้ว 202 ราย”
ด้านเจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ในกรุงอิสลามาบัดก็ออกมายืนยันตัวเลขดังกล่าว
ไซรา อัฟซาล ตาราร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขปากีสถาน ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์ เอ็กซ์เพรส นิวส์ ว่า ผู้ติดเชื้อใหม่ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ “ทีมแจกจ่ายวัคซีนโปลิโอถูกขู่โจมตี”
เธอได้ขอให้หน่วยงานท้องถิ่นจัดโครงการรณรงค์อย่างครอบคลุม และนำวัคซีนเข้าไปแจกจ่ายแก่เด็กๆ ทุกคนที่พลาดการหยอดวัคซีนครั้งที่แล้วให้สำเร็จ
ปากีสถานเป็น 1 ใน 3 ประเทศที่เชื้อโปลิโอยังระบาดรุนแรง และเหตุโจมตีที่เกิดกับทีมสาธารณสุขที่เข้าไปหยอดวัคซีนแก่เด็กๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็กำลังกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้ความพยายามกำจัดโรคนี้ยากจะประสบความสำเร็จได้
ตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2012 เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและตำรวจในทีมแจกวัคซีนโปลิโอถูกกลุ่มก่อความไม่สงบสังหารไปแล้ว 59 ราย
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ผู้ป่วยใหม่ 136 รายที่ได้รับรายงานเข้ามาอาศัยอยู่ในชนเผ่าทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือติดพรมแดนอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มตอลิบานและอัลกออิดะห์
ฮาฟีซ กุล บาฮาดูร์ ผู้นำกลุ่มติดอาวุธในท้องถิ่น เริ่มประกาศแบนวัคซีนโปลิโอในเขตวาซิริสถานเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2012 จากนั้นชนเผ่าและกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ในพื้นที่ รวมไปถึงในจังหวัดไคเบอร์ปักตุนควา ก็เริ่มต่อต้านการแจกวัคซีนเช่นกัน
การขัดขวางของคนในท้องถิ่นซึ่งไม่พอใจที่สหรัฐฯ ส่งเครื่องบินไร้คนขับเข้าไปทิ้งระเบิด และความเชื่อที่ว่าโครงการหยอดวัคซีนโปลิโอถูกใช้เป็นฉากบังหน้าเพื่อ “สอดแนม” กำลังทำให้ชีวิตเด็กหลายพันคนในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานตกอยู่ในความเสี่ยง
ยอดผู้ติดเชื้อโปลิโอใหม่ๆ ในปากีสถานเคยลดลงเหลือเพียง 28 รายในปี 2005 แต่กลับเพิ่มขึ้นเป็น 198 รายในปี 2011 ขณะที่ปีที่แล้วพบผู้ติดเชื้อใหม่เพียง 93 ราย
กระแสต่อต้านวัคซีนโปลิโอรุนแรงขึ้น นับตั้งแต่ ชากีล อาฟรีดี แพทย์ชาวปากีสถาน ใช้โครงการหยอดวัคซีนบังหน้าเพื่อสืบข่าวให้แก่สำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) จนในที่สุดอเมริกาก็สามารถแกะรอยและสังหาร อุซามะห์ บินลาดิน อดีตผู้นำสูงสุดเครือข่ายอัลกออิดะห์ได้สำเร็จ
