รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - อาร์เจนตินาได้สั่งจ่ายเงินมูลค่า 161 ล้านดอลลาร์เพื่อฝากในNacoin Fideicomisos สถาบันการเงินในประเทศเพื่อชำระดอกเบี้ยตราสารหนี้ปรับโครงสร้างใหม่ในวันอังคาร(30) ท้าทายคำสั่งศาลสหรัฐฯที่สั่งให้รัฐบาลอาร์เจนตินาต้องจ่ายเงินเต็มจำนวนให้กับคู่ความบริษัทเฮดจ์ฟันด์สัญชาติสหรัฐฯเป็นลำดับแรก ที่ล่าในวันจันทร์(29) ผู้พิพากษาศาลสหรัฐฯเจ้าของคดีออกคำพิพากษา จากกรณีอาร์เจนตินาหันไปใช้สถาบันการเงินในประเทศจ่ายดอกเบี้ยให้กับผู้ถือตราสารหนี้ปรับโครงสร้างว่า “หมิ่นศาล” หลังจากที่ก่อนหน้านั้นได้ใช้บริการธนาคารสหรัฐฯ Bank of New York Mellon เป็นตัวกลางจ่ายเงิน และเป็นผลให้อาร์เจนตินาผิดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในเดือนกรกฎคมที่ผ่านมา และส่งผลกระทบต่อการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ
อาร์เจนตินาต้องการแสดงให้เห็นว่า มีความสามารถในการชำระหนี้ และการผิดชำระหนี้ครั้งแรกในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาต่อผู้ถือตราสารปรับโครงสร้างนั้นเกิดจากการแทรกแซงของสหรัฐฯ
“ในการที่รัฐบาลอาร์เจนตินาได้โอนเงินข้าฝากสถาบันการเงินในประเทศที่กำหนดไว้ ทางอาร์เจนตินาต้องการยืนยันอีกครั้งถึงการยึดมั่นต่อสัญญาที่มีต่อผู้ถือบอนด์ปรับโครงสร้าง” กระทรวงเศรษฐกิจอาร์เจนตินาแถลง
แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีจำนวนผู้ถือตราสารหนี้ปรับโครงสร้างเท่าใดที่จะได้รับเงินปันผลครั้งนี้ก่อนเส้นตายกำหนดวันชำระหนี้วันที่ 30 กันยายนโดยปราศจากการช่วยเหลือจากตัวกลางสถาบันการเงินต่างชาติ ที่อาจจะเข้าข่ายขัดคำสั่งศาลสหรัฐฯหากสถาบันการเงินเหล่านั้นยื่นมือให้การช่วยเหลืออาร์เจนตินา
ทั้งนี้สถาบันการเงินเคลียร์สตรีม (Clearstream Banking S.A. (CB)) ที่มีฐานอยู่ในลักเซมเบิร์กกล่าวว่า ทางธนาคารเชื่อฟังคำสั่งศาล โดยโฆษกของเคลียร์สตรีมแถลงว่า “ ทางเคลียร์สตรีมเฝ้าจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และยังคงปฎิบัติตามคำสั่งศาลในเรื่องนี้”
และยูโรเคลียร์ (Euroclear) สถาบันการเงินอีกแห่งในเบลเยียมที่ทำหน้าที่จ่ายเงินให้กับผู้ถือบอนด์อาร์เจนตินาปฎิเสธที่จะให้ความเห็น
ด้าน Nacoin Fideicomisos สถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลอาร์เจนตินายอมรับว่า มีเงินจำนวนไม่มากนักจากเงินฝากจากรัฐบาลอาร์เจนตินาได้จ่ายไปยังผู้ถือตราสารหนี้ปรับโครงสร้าง
รัฐบาลกลางอาร์เจนตินาได้ฝากเงินสำหรับชำระหนี้ตราสารหนี้กับNacoin Fideicomisosสัญชาติอาร์เจนตินาหลังจากรัฐบาลของประธานาธิบดีหญิง กริสตีนา เอลิซาเบต เฟร์นันเดซ เด กีร์ชเนร์ ได้ย้ายจากธนาคารสหรัฐฯ Bank of New York Mellon ที่ในอดีตเคยใช้เป็นตัวกลางจ่ายเงิน เพื่อหลบเลี่ยงคำสั่งศาลสหรัฐฯ
เหตุการผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรกในเดือนกรกฎาคมเกิดขึ้นเพราะผู้พิกษาโทมัส กรีซา เจ้าของคดีได้สั่งห้ามการชำระหนี้ในกลางเดือนกรกฎาคม ห้ามไม่ให้อาร์เจนตินาจ่ายหนี้อืนก่อนการชำระหนี้เต็มจำนวนให้กับคุ่กรณีที่เป็นบริษัทเฮดจ์ฟันด์สหรัฐฯ และเป็นผลทำให้รัฐบาลอาร์เจนตินาตอบโต้ด้วยการแก้กฎหมายอนุญาตให้สามารถสั่งจ่ายหนี้ตราสารได้ภายในประเทศเพื่อป้องกันการขัดขวางของศาลสหรัฐฯ
ในวันจันทร์(29)ผู้พิพากษากรีซาได้ออกคำเตือนรัฐบาลอาร์เจนตินาให้เลิกหลบเลี่ยงคำสั่งศาล และถือว่าการกระทำของอาร์เจนตินาในการออกกฎหมายเปลี่ยนสถานที่ชำระหนี้เป็นการ “ดูหมิ่นศาล”
ทั้งนี้ ดร.วีรชัย พลาศรัยได้แก้ข้อสงสัยผ่านสื่อไทยว่า เหตุใดศาลสหรัฐฯจึงสามารถออกคำพิพากษาสั่งรัฐบาลอาร์เจนตินาได้ ทั้งนี้โดยเหตุที่ศาลสหรัฐฯมีอำนาจเพราะการออกตราสารหนี้ อาร์เจนตินาใช้ประโยชน์จากตลาดเงิน 3 แหล่ง คือ 1. ในประเทศ ซึ่งเป็นหนี้ภายใต้กฎหมายภายใน 2. ตลาดยุโรป โดยอยู่ภายใต้กฎหมายอังกฤษ และสุดท้าย ตลาดนครนิวยอร์ก โดยอยู่ภายใต้กฎหมายอเมริกัน ดังนั้น หนี้ส่วนหลังนี้จึงทำให้รัฐบาลอาร์เจนตินาต้องอยู่ใต้บังคับของกฎหมายและศาลอเมริกัน และเจ้าหนี้มีอำนาจต่อรองเหนือกว่า ธรรมเนียมปกติจึงมักจะให้อยู่ภายใต้กฎหมายภายในของประเทศใดประเทศหนึ่งที่เจ้าหนี้กำหนด
นอกจากนี้ ยังมีข้อดีของการกำหนดให้ตราสารหนี้อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายอเมริกัน คือเป็นการให้หลักประกันแก่นักลงทุนมากกว่ากรณีตราสารหนี้ภายใต้บังคับของกฎหมายอาร์เจนตินาเอง และดร.วีรชัยยังให้ความเห็นถึงทางออกสำหรับอาร์เจนตินาว่า มีผู้สันทัดกรณีหลายท่านมองว่า มีข้อยุติสถานเดียวคือ “ต้องจ่ายหนี้” และยังไม่เห็นด้วยที่อาร์เจนตินาพยายามแก้ปัญหาด้วยการ “เดินหน้าชน” กับHoldouts ของสหรัฐฯซึ่งถือเป็นเสือเขี้ยวลากดินในวงการเงินระดับนานาชาติ และมีความเชี่ยวชาญในการใช้ประโยชน์จากคำสั่งศาลบังคับให้รัฐบาลประเทศคู่ความยอมชำระหนี้ในที่สุด
