เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยอมรับในการให้สัมภาษณ์ที่นำออกเผยแพร่วันอาทิตย์ (28 ก.ย.) ว่า วอชิงตันประเมินศักยภาพกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ต่ำเกินไป แต่กลับประเมินความสามารถทหารอิรักสูงเกินจริง ขณะที่ผู้นำของ “อัล-นูซรา ฟรอนต์” สาขาในซีเรียของอัลกออิดะห์ ประกาศว่า นักรบอิสลามิสต์จะทำการโจมตีฝ่ายตะวันตก เพื่อตอบโต้แก้แค้นการที่สหรัฐฯ และกลุ่มพันธมิตรเข้าถล่มทางอากาศในซีเรียและอิรัก ซึ่งถือว่าเป็นการทำสงครามกับชาวมุสลิมนิกายสุหนี่ สำหรับสถานการณ์การสู้รบ มีรายงานว่าการปฏิบัติการทางอากาศที่นำโดยอเมริกาได้เข้าโจมตีโรงงานแก๊สธรรมชาติในภาคตะวันออกของซีเรีย ตลอดจนถล่มไซโลเก็บธัญญาหารในภาคเหนือซึ่งทำให้มีพลเรือนเสียชีวิต
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์รายการ “60 มินิตส์” ของเครือข่ายโทรทัศน์ซีบีเอส ที่บันทึกเทปตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา (26 ก.ย.) ประธานาธิบดีโอบามาระบุว่า พวกอดีตนักรบของอัลกออิดะห์ที่หลบหนีการรุกไล่ของกองทัพอเมริกันและกองกำลังท้องถิ่นจากอิรัก สามารถกลับไปรวมกลุ่มกันอีกครั้งในซีเรียและกลายเป็นกลุ่มไอเอสที่อันตรายขึ้นกว่าเดิม
โอบามาเสริมว่า จิม แคลปเปอร์ ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐฯ ยอมรับแล้วว่า ประเมินสิ่งที่เกิดขึ้นในซีเรียเอาไว้ต่ำกว่าความเป็นจริง นอกจากนั้น วอชิงตันยังประเมินความสามารถและความมุ่งมั่นของกองทัพอิรักที่อเมริกาเข้าไปจัดตั้งและฝึกอบรมเอาไว้สูงเกินไป
ประมุขแดนอินทรียังบอกอีกว่า ขณะนี้นักโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มไอเอส “มีความเชี่ยวชาญอย่างมาก” ในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ และสามารถดึงดูดสมาชิกใหม่ๆ ทั้งจากยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย รวมทั้งพวกประเทศที่ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม
โอบามาชี้ว่า ทางออกส่วนหนึ่งสำหรับปัญหานี้ คือ อิรักและซีเรียต้องแก้ไขวิกฤตการเมืองภายในประเทศของตนเอง และระบุว่า ขณะนี้บางประเทศในตะวันออกกลางได้สร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้คนหนุ่มสาวหมกมุ่นสนใจอยู่เพียงแค่ว่า ตนเองเป็นชาวชีอะห์หรือสุหนี่ มากกว่าจะสนใจว่า ตนเองมีการศึกษาที่ดีเพื่อปูทางสู่ความก้าวหน้าในการงานหรือไม่
การให้สัมภาษณ์คราวนี้มีขึ้นขณะที่แนวร่วมที่นำโดยอเมริกากำลังระดมโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายไอเอสในอิรักและซีเรีย ซึ่งผู้นำสหรัฐฯ เรียกว่า “กราวด์ซีโร่สำหรับนักรบญิฮัดทั่วโลก”
ปัจจุบัน อิรักยังคงอยู่ในสภาพแตกแยกภายหลังที่อเมริกาถอนทัพออกไป โดยชาวสุหนี่รู้สึกว่า ตนแปลกแยกจากรัฐบาลที่นำโดยชาวชีอะห์ ขณะที่ในซีเรียก็เผชิญสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบมาตั้งแต่ปี 2011
“ไอเอสเป็นเครือข่ายลูกผสมที่ไม่ใช่เพียงกลุ่มก่อการร้ายเท่านั้น แต่ยังมียุทธศาสตร์และยุทธวิธีแบบกองทัพ” โอบามาแจงและย้ำว่า นี่ไม่ใช่สงครามของอเมริกากับไอเอส แต่เป็นประชาคมนานาชาติที่อเมริกาเป็นแกนนำ เพื่อช่วยประเทศที่เป็นหุ้นส่วนด้านความมั่นคงรายนี้ ให้สามารถดูแลตัวเองได้
การเผยแพร่คำให้สัมภาษณ์นี้มีขึ้น ขณะที่กลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ได้เข้าโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายไอเอสที่เมืองมานบิจ ทางด้านเหนือของซีเรียเมื่อคืนวันอาทิตย์ (28) โดยเมืองดังกล่าวตั้งอยู่ระหว่างเมืองอะเลปโปกับโคบานี กองกำลังพันธมิตรยังบอมบ์โรงงานผลิตแก๊สธรรมชาติที่ไอเอสยึดได้บริเวณนอกเมืองเดียร์ อัล-ซอร์ ทางภาคตะวันออก และเมืองฮาซากาทางตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งชานเมืองรักกา ทางด้านเหนือ ทั้งนี้ตามรายงานของกลุ่มซีเรียน ออบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ส ซึ่งเป็นกลุ่มติดตามสงครามความขัดแย้งในซีเรียโดยพึ่งพาอาศัยเครือข่ายฝ่ายค้านที่ต่อต้านทั้งรัฐบาลกรุงดามัสกัสและกลุ่มนักรบหัวรุนแรงอย่างไอเอส
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่ากองทัพซีเรียเองก็โจมตีทางอากาศในอะเลปโปและฮามา ทางตะวันตกของประเทศ
อย่างไรก็ตาม กลุ่มซีเรียน ออบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ส ระบุด้วยว่า การโจมตีทางอากาศที่นำโดยสหรัฐฯ ณ เมืองมานบิจ ได้ถล่มใส่โรงสีและไซโลเก็บธัญญาหาร ทำให้มีคนงานพลเรือนเสียชีวิตไปหลายคน
จากการถล่มโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ และพันธมิตร กำลังสร้างความเดือดดาลให้แก่นักรบอิสลามิสต์กลุ่มต่างๆ โดยเมื่อวันอาทิตย์ (28) ได้มีการเผยแพร่คลิปเสียงความยาว 25 นาทีของ อบู โมฮัมหมัด อัล-กอลานี ผู้นำของกลุ่มนูซรา-ฟรอนต์ ที่เป็นสาขาในซีเรียของเครือข่ายอัล-กออิดะห์ และเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่อเมริกาเข้าโจมตีในซีเรีย
ในคลิปดังกล่าว อัล-กอลานีประกาศว่า จะใช้ทุกวิถีทางเพื่อต่อต้านการโจมตีของกลุ่มพันธมิตรของสหรัฐฯ และถือว่า สหรัฐฯ กับพันธมิตรกำลังทำสงครามกับชาวมุสลิมนิกายสุหนี่ พร้อมกันนั้นเขาเตือนว่า ความขัดแย้งนี้จะลุกลามไปยังประเทศที่ร่วมรบกับอเมริกา
“มุสลิมจะไม่ยอมนิ่งดูดายปล่อยให้มุสลิมด้วยกันถูกถล่มและสังหารในประเทศของตัวเอง โดยที่พวกคุณยังคงปลอดภัยอยู่ในประเทศของพวกคุณ แต่ไม่เฉพาะผู้นำของคุณเท่านั้นที่ต้องจ่ายราคาจากสงคราม พวกคุณเองต่างหากที่จะต้องจ่ายหนักที่สุด” อัล-กอลานีประกาศ
ทั้งนี้ แม้วอชิงตันมองว่า นูซรา ฟรอนต์เป็นกลุ่มก่อการร้าย แต่กลุ่มกบฏซีเรียจำนวนมากกลับมองกลุ่มนี้เป็นพันธมิตร ทั้งในการต่อสู้กับรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด และในการต่อสู้กับกลุ่มไอเอสทั้งในอิรักและซีเรีย โดยที่ นูซรา ฟรอนต์ ถึงแม้มีเป้าหมายสูงสุดในการบังคับใช้กฎหมายอิสลามในซีเรีย แต่ต่างจากไอเอส ตรงที่กลุ่มนี้ถือการโค่นล้มระบอบอัสซาดเป็นภารกิจสำคัญอันดับแรก และพร้อมร่วมมือกับกบฏกลุ่มอื่นๆ ในการต่อสู้
ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี มีกบฏซีเรีย นักเคลื่อนไหว รวมทั้งนักวิเคราะห์จำนวนไม่น้อยออกมาเตือนว่า การมุ่งโจมตีนูซรา ฟรอนต์ จะทำให้ความขัดแย้งในซีเรียลุกลามมากขึ้น และเข้าทางอัสซาดเนื่องจากช่วยกำจัดหนึ่งในศัตรูสำคัญ ในขณะที่อเมริกาแม้ยืนยันว่า ต้องการให้อัสซาดลาออก แต่ก็ยังไม่ได้เข้าโจมตีกองกำลังของรัฐบาลซีเรียแต่อย่างใด
อัล-กอลานียังเตือนว่า การโจมตีทางอากาศจะทำให้กบฏซีเรียกลุ่มต่างๆ อ่อนแอลง พร้อมเรียกร้องไม่ให้กลุ่มกบฏทั้งหลายร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ วอชิงตันประกาศเรื่อยมาว่า จะติดอาวุธและฝึกกบฏซีเรียสายกลาง เพื่อช่วยสู้รบกับไอเอส
การประกาศของอัล-กอลานีมีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากโฆษกของกลุ่มนี้ได้ออกมาข่มขู่ว่า ชาวมุสลิมทั่วโลกจะโจมตีประเทศที่เข้ารบกับอเมริกาในการโจมตีทางอากาศ