เอเอฟพี - เลียน เพเนตตา อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ชี้ว่าการขยายอิทธิพลของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในอิรักและซีเรียส่วนหนึ่งเป็นเพราะประธานาธิบดี บารัค โอบามา ตัดสินใจให้ความช่วยเหลือด้านอาวุธต่อกบฏสายกลางในซีเรีย “ช้าเกินไป”
บทสัมภาษณ์ของเพเนตตา ถูกเผยแพร่หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (18) สภาคองเกรสสหรัฐฯ ได้อนุมัติแผนฝึกฝนและติดอาวุธให้แก่กบฏซีเรียสายกลาง เพื่อให้พวกเขาสามารถต่อสู้และต้านทานนักรบญิฮาดไอเอสได้ ซึ่งนับว่าเป็นยุทธศาสตร์หลักของผู้นำสหรัฐฯ ที่จะกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธสุหนี่หัวรุนแรงซึ่งยึดดินแดนในอิรักและซีเรียเป็นบริเวณกว้างขวาง
เพเนตตาได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ 60 Minutes ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ซึ่งออกอากาศเมื่อวานนี้ (21) ว่า เมื่อปี 2012 เขาและฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ในขณะนั้น เคยเตือนให้โอบามารีบส่งอาวุธเข้าไปช่วยพวกกบฏที่ต่อสู้กับกองทัพของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย
“ผมพอจะเข้าใจความกังวลของประธานาธิบดีซึ่งเป็นห่วงว่า อาวุธที่เราส่งเข้าไปนั้นไม่รู้ว่าจะไปตกอยู่ในมือของฝ่ายไหน” เพเนตตา ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้นำเพนตากอนในยุคที่วอชิงตันสั่งถอนกำลังออกจากอิรักในปี 2011 กล่าว
“แต่ความเห็นของผมก็คือ คุณต้องเริ่มที่จุดใดสักจุดหนึ่ง” อดีตผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) ผู้นี้ระบุ
เมื่อพิธีกรตั้งคำถามว่า การที่สหรัฐฯ ไม่ติดอาวุธให้กบฏซีเรียก่อนหน้านี้เป็นความผิดพลาดหรือไม่ เพเนตตา ตอบว่า “ผมเชื่อว่าการทำเช่นนั้นจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น และส่วนหนึ่งผมมองว่าสหรัฐฯ ก็ได้รับบทเรียนราคาแพงจากการกระทำของพวกไอเอสในเวลานี้”
เพเนตตายังกล่าวเตือนด้วยว่า การปราบกลุ่มไอเอสจะต้องใช้เวลา “นานพอสมควร”
“ผมคิดว่าชาวอเมริกันทุกคนควรเข้าใจว่า มันจะต้องใช้เวลานาน” เขากล่าว พร้อมชี้ว่าการที่รัฐบาลอิรักล้มเหลวในการสกัดกั้นนักรบญิฮาดกลุ่มนี้ถือเป็น “เรื่องน่าเศร้า”
เพเนตตายังยอมรับด้วยว่า ตัวเขาเองไม่เชื่อมั่นว่าการถอนทหารอเมริกันออกจากอิรักในปี 2011 เป็นสิ่งที่ถูกต้อง
“ไม่เลย ผมไม่เชื่ออย่างนั้น ผมคิดว่าเรายังจำเป็นต้องมีกองกำลังอยู่ในอิรัก”