เอเจนซีส์ - พบกระสุนปืนร่วม 800 นัด รวมถึงมีดยาว และขวานอีก 2 อันภายในรถของโอมาร์ กอนซาเลซ (Omar Gonzalez) อดีตทหารผ่านศึกอิรักวัย 42 ปีที่ถูกจับกุมในวันศุกร์(19)หลังจากแอบปีนรั้วเข้าไปในทำเนียบขาว
ในวันศุกร์ (19) โอมาร์ กอนซาเลซ(Omar Gonzalez) ปีนรั้วและวิ่งตัดสนามเข้าสู่ประตูหน้าของตัวอาคารทำเนียบขาว และได้เผชิญหน้ากับหน่วยรักษาความปลอดภัยประจำทำเนียบขาว ซึ่งกอนซาเลซถูกจับกุมในทันทีในขณะที่กำลังผ่านเข้าตัวอาคาร และเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาผู้นำซึ่งค้นตัวเขา ได้พบมีดพับสปายเดอร์โก วีจี-10 ที่มีใบมีดยาว 8.90 ซ.ม. ในกระเป๋ากางเกง
และเมื่อวานนี้(22) ทางเจ้าหน้าที่สหรัฐฯได้เปิดเผยว่า ชาวเมืองคอปเปอรัส โคฟ มลรัฐเทกซัส วัย 42 ปีผู้นี้เคยถูกจับกุมในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาในขณะที่มีปืนไรเฟิล 2 กระบอก และแผนที่ชี้จุดทำเนียบขาว
ด้านจูเลีย เพียร์สัน ผู้อำนวยการซีเคร็ต เซอร์วิส จึงออกคำสั่งสอบสวนทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ใช้อยู่ และจะเสนอรายงานโดยตรงต่อ เจห์ จอห์นสัน รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ซึ่งเป็นหน่วยเหนือของหน่วยอารักขาผู้นำ
ทั้งนี้ การสอบสวนเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่คืนวันศุกร์(19)ด้วยการประเมินสภาพทางกายภาพ และสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง โดยกระบวนการนี้จะครอบคลุมนโยบายการปฏิบัติงานและกระบวนการในการรักษาความปลอดภัยทั้งหมด
ระหว่างนี้ เพียร์สันยังสั่งเพิ่มการเดินตรวจตราและการตรวจสอบรอบแนวรั้วทำเนียบขาวเข้มงวดขึ้น
กอนซาเลซที่มีประวัติเคยรับใช้สหรัฐฯด้วยการเป็นทหารในสงครามอิรักถูกตั้ง 2 ข้อหาหนัก แอบลักลอบเข้าเขตหวงห้าม และมีอาวุธร้ายแรงครอบครอง
นอกจากในระหว่างการใต่สวนคดี อัยการรัฐบาลกลางสหรัฐฯกล่าวว่าก อนซาเลซเคยถูกสั่งให้หยุดในเดือนสิงหาคมในขณะที่เขาถือขวานเดินผ่านทำเนียบขาวด้านรั้วทางทิศใต้ แต่กอนซาเลสไม่ได้ถูกจับกุมในขณะนั้น
ด้านผู้ช่วยอัยการรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เดวิด มัดด์ (David Mudd )ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า กอนซาเลซถือเป็นอันตรายต่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ และทางผู้พิพากษาเจ้าของคดีเห็นควรให้คุมตัวกอนซาเลซอยู่ในเรือนจำโดยไม่ได้รับการประกันจนกระทั่งการขึ้นศาลครั้งต่อไปในเดือนตุลาคม
ทั้งนี้โฆษกทำเนียบขาว จอช เอิร์นเนส(Josh Earnest ) กล่าวว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯรู้สึกกังวลใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ในขณะที่กอนซาเลซบุกเข้าทำเนียบขาวเป็นเวลาที่โอบามา และครอบครัวได้ออกเดินทางจากทำเนียบขาวด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปแล้ว
และหลังจากที่ระบบรักษาความปลอดภัยของทำเนียบขาวรั่วในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางหน่วยรักษาความปลอดภัยได้เพิ่มให้มีการตรวจตราด้วยเท้ามากขึ้น รวมถึงให้เพิ่มอุปกรณ์เพื่อมอร์นิเตอร์ความปลอดภัย รวมทั้งเปลี่ยนระบบใหม่ทั้งหมดเพื่อให้แน่ใจว่าการเข้าสู่ตึกทำเนียบขาวนั้นปลอดภัย เอิร์นเนสแถลง “ประธานาธิบดีสหรัฐฯเชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนแปลงระบบรักษาความปลอดภัยจะทำให้ดีขึ้น”
นอกจากนี้เอพียังรายงานว่า อัยการท้องถิ่นได้เปิดเผยว่า ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตำรวจพบปืนไรเฟิลอำนาจทำลายล้างสูง 2 กระบอก ปืนพก 4 กระบอก และอาวุธปืนอื่นๆรวมถึงกระสุนปืน รวมไปถึงแผนที่ระบุทำเนียบขาวในรถของกอนซาเลซในระหว่างที่เขาถูกสั่งให้หยุดรถที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐเวอร์จิเนีย
และเอพียังรายงานเพิ่มเติมว่า กอนซาเลซอยู่ในกองทัพสหรัฐฯตั้งแต่ปี 1997 จนกระทั่งเขาปลดประจำการในปี 2003 และกลับเข้าไปทำงานให้กับกองทัพสหรัฐฯใหม่อีกครั้งตั้งแต่ปี 2005 จนถึงเดือนธันวาคม 2012 ที่กอนซาเลซต้องเกษียณเนื่องมาจากได้ความพิการ
ทั้งเพื่อนและครอบครัวของกอนซาเลซได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ สื่อสหรัฐฯ ว่า กอนซาเลสประสบปัญหาด้านจิตซึมเศร่าอย่างหนัก นอนไม่หลับ ฝันร้าย ทั้งหมดบ่งชี้ว่าเป็นอาการของ PTSD หรือโรคเครียดจากเหตุการณ์ร้ายแรง
หลังจากที่กอนซาเลซทำหน้าที่เป็หน่วยแม่นปืนในอิรัก ซาแมนธา เมอร์ฟี เบล ( Samantha Murphy Bell) อดีตภรรยาของกอนซาเลซให้สัมภาษณ์กับ NBC News ว่า อดีตสามีของเธอประสบปัญหาจากการทำงานในอิรัก และกอนซาเลซต้องการการรักษาไม่ใช่การถูกคุมขัง “ดิฉันหวังว่าจะสามารถช่วยเขาได้ กอนซาเลซไม่ใช้คนเลวร้าย เขากระโดดข้ามรั้วเข้าไปไม่ใช่เพื่อทำร้ายโอบามา”
โดยเธอเล่าว่า ได้พบกับอดีตสามีในปี 2005 หรือปี 2006 และทั้งคู่ได้ตกลงแต่งงานในปี 2006 ทั้งคุ่แยกกันอยู่ในปี 2010 และได้หย่าขาดอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
“ครั้งที่ 2 ที่เขาได้ไปทำหน้าที่ในอิรัก และดิฉันสังเกตว่ากอนซาเลซทำอะไรหลายอย่างที่ทำให้ดิฉันรู้สึกอึดอัด ดิฉันรู้ว่าอดีตสามีจะไม่มีวันทำร้ายดิฉันแต่สิ่งที่เขาเผชิญในอิรักทำให้เขาไม่เหมือนเดิม” เบลกล่าว และเธอเล่าต่อว่า เขาเริ่มวางอาวุธปืนซ่อนไว้หลังประตูทุกแห่งในบ้าน รวมไปถึงพกอาวุธตลอด และยังเล่าว่ามีกลุ่มคนจับจ้องเขาตลอดเวลา รวมถึงพยายามจะวางยาพิษเขา ซึ่งมันทำให้เบลทนไม่ไหว และขอหย่าขาดกับกอนซาเลซในที่สุด
ด้านเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เอลค์ วอร์น (Elke Warne )ที่อาศัยอยู่สุดถนน เพื่อนบ้านของกอนซาเลซให้สัมภาษณ์ว่า “กอนซาเลซเคยเล่าว่า เด็กๆทำให้เขากลัวมากที่สุด เพราะเมื่อยามเขาอยู่ในอิรัก เขาพบเด็กมีระเบิดพันรอบตัว” และวอร์นได้กล่าวต่อว่า กอนซาเลซไม่เคยให้ปืนห่างตัว “ไม่แม้กระทั่งเมื่อยามพาสนัขไปเดินเล่น”
และครอบครัวของกอนซาเลซเผยต่อว่า กอนซาเลซมักบ่นให้ฟังถึงปัญหาการให้บริการด้านสุขภาพของโรงพยาบาลทหารผ่านศึกว่า ล่าช้า และต้องใช้เวลามากกว่า 1 ปีจึงเริ่มรับเรื่องการขอสวัสดิการรักษาประเดือนของเขา และทำให้กอนซาเลซต้องรู้สึกหงุดหงิดมากที่ต้องรอเพื่อเข้ารับบริการทางการแพทย์เป็นเวลานาน และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ากอนซาเลซแล้วในที่สุดได้รับการรักษาอาการป่วยหรือไม่ ซึ่งในหลายเดือนที่ผ่านกระทรวงทหารผ่านศึกสหรัฐฯประสบปัญหาความล่าช้าในการให้บริการทางแพทย์กับเหล่าทหารผ่านศึกอเมริกัน และทำให้มีอดีตนายทหารจำนวนหนึ่งเสียชีวิตในระหว่างการรอคิวนัดพบแพทย์
