“อีริค ชินเซกี” ยอมลาออกจาก “รมว.กระทรวงกิจการทหารผ่านศึกสหรัฐฯ” หลังข่าว “คนไข้ตายระหว่างรอการรักษา” กระทบโอบามาหนัก

เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ยอมรับใบลาออกจากตำแหน่งของ อีริค ชินเซกี (Eric Shinseki) รัฐมนตรีกิจการทหารผ่านศึกสหรัฐฯ (VA) หลังจากยอมรับความผิดพลาดในการขาดความโปร่งใสในบัญชีผู้ป่วยทหารผ่านศึกสหรัฐฯที่รอการรักษาตัวในเครือข่ายโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดทั่วประเทศทำให้คนไข้ต้องใช้เวลานานไปในการรอพบแพทย์ และเป็นผลทำให้มีทหารผ่านศึกจำนวน 40 คนต้องเสียชีวิตในระหว่างนั้น รวมถึงการเสียชีวิตจากการปลิดชีพตนเอง

“ผมต้องการใครสักคนที่ใช้เวลาทุกนาทีของทุกวันเพื่อจะค้นหา เรากำลังปรับปรุงมันอยู่ใช่ไหม” อีริค ชินเซกี (Eric Shinseki) รัฐมนตรีกิจการทหารผ่านศึกสหรัฐฯ (VA) กล่าว โดยเขาได้ตัดสินใจยื่นใบลาออกจากตำแหน่งท่ามกลางข่าวฉาวในระยะเวลานัดพบแพทย์ และการทำข้อมูลเท็จของโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงกิจการทหารผ่านศึกสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา เปิดเผยว่า ชินเซกีไม่ต้องการอยู่เป็นตัวถ่วงในขณะที่ทางกระทรวงกำลังแก้ไขในสิ่งผิดพลาดในระบบของโรงพยาบาลสังกัดทหารผ่านศึกสหรัฐฯ และโอบามาเปิดเผยว่า เขายอมรับจดหมายลาออกจากชินเซกีด้วยความเสียใจ

จากรายงานเปิดเผยว่า คนไข้อดีตทหารผ่านศึกสหรัฐฯใช้เวลาราว 115 วันในการขอนัดพบแพทย์ครั้งแรกที่โรงพยาบาลรัฐแอริโซนา

ในวันศุกร์ (30 พฤษภาคม) ที่ห้องทำงานรูปไข่ ทำเนียบขาว การหารือระหว่างโอบามา และ ชินเซกี อดีตนายพล 4 ดาวเกษียณของสหรัฐฯที่ได้รับบาดเจ็บในสงครามเวียดนามเกิดขึ้น โดยโอบามาได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ชินเซกีทำงานอย่างหนักเพื่อต้องการตรวจสอบถึงปัญหาในการเข้ารับการรักษาพยาบาล แต่ในเช้าวันนี้ชินเซกีกลับบอกผมว่า กระทรวงกิจการทหารผ่านศึกสหรัฐฯต้องการเจ้ากระทรวงคนใหม่ในการแก้ปัญหา” โอบามาเผย และเสริมต่อว่า “เราไม่มีเวลาที่จะเสีย เราต้องการแก้ปัญหาให้ลุล่วง”

นอกจากนี้ โอบามาเปิดเผยว่า ปัญหาการรอรับตรวจแพทย์เกิดจากกระทรวงกิจการทหารผ่านศึกเป็นองค์กรใหญ่ที่มีปัญหาสะสมเป็นเวลานาน และบัญชีการรับนัดแพทย์ของทหารผ่านศึกที่มีปัญหานั้นเกิดจากระบบคอมพิวเตอร์เก่าที่ยังใช้ตั้งแต่ยุค 90 และเห็นควรที่จะให้เพิ่มจำนวนแพทย์เพื่อการตรวจรักษาคนไข้ที่รออยู่ในรายชื่อการรับรักษาที่รอมานานแล้ว โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯได้แต่งตั้งผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงกิจการทหารผ่านศึกสหรัฐฯ สโลน กิบสัน (Sloan Gibson) ขึ้นเป็นรักษาการรัฐมนตรีชั่วคราว

การตัดสินใจลาออกของชินเซกีเกิดมาจากเสียงสนับสนุนจากพรรคเดโมแครตของโอบามาลดลง รวมไปถึงสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรส แทมมี ดักเวิร์ด ผู้ใกล้ชิดจากพรรคเดโมแครต และกลุ่มองค์กรทหารผ่านศึกสหรัฐฯได้เรียกร้องให้เขาลาออกในต้นเดือนพฤษภาคม พบว่ามีสมาชิกสภาคองเกรสอย่างน้อย 116 คนขอให้ชินเซกีลาออก

ในวันศุกร์ (30 พฤษภาคม) เจฟ มิลเลอร์ (Jeff Miller) จากพรรครีพับลิกัน ประธานกรรมาธิการกิจการทหารผ่านศึกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯเปิดเผยว่า “ประวัติทำงานของชินเซกีในฐานะเจ้ากระทรวงกิจการทหารผ่านศึกสหรัฐฯต้องมัวหมอง เพราะการขาดความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่กระทรวงและผู้บังคับบัญชาที่มีประสิทธิภาพการทำงานต่ำ การคอรัปชันของเจ้าหน้าทีศูนย์การแพทย์ภายใต้สังกัด และระบบที่ขาดความโปร่งใส”

และประธานสภาคองเกรส จอห์น โบห์เนอร์ ให้ความเห็นว่า “การลาออกจะไม่ทำให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯไม่สามารถป้ดความผิดที่ต้องรับผิดชอบ และยังคงต้องแก้ไขปัญหาให้กับเหล่าทหารผ่านศึกของสหรัฐฯ”

การลาออกของชินเซกีเกิดขึ้นท่ามกลางข่าวฉาวหลายเดือนที่ผ่านมา จากรายงานที่เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลในฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ปลอมแปลงเอกสารการแพทย์เพื่อปกปิดร่องรอยความล่าช้าที่คนไข้ทหารผ่านศึกต้องใช้ระยะเวลานานในการรอรับการรักษาตัว

ในวันพุธ (28 พฤษภาคม) การตรวจสอบภายในของกระทรวงกิจการทหารผ่านศึกสหรัฐฯ พบว่า โดยเฉลี่ยแล้วคนไข้ต้องรอราว 115 วัน ในการขอพบแพทย์ครั้งแรก แต่ทางโรงพยาบาลกลับปกปิดโดยรายงานเท็จต่อกระทรวงว่า อัตราเฉลี่ยการรออยู่ที่ 24 วันเท่านั้น

นอกจากนี้ รายงานของผู้ตรวจสอบจากกระทรวงยังเปิดเผยต่อว่า มีทหารผ่านศึกสหรัฐฯอย่างน้อย 1,700 คนไม่ได้มีชื่ออยู่ในบัญชีรอเรียกตัวเพื่อรับการรักษาเพราะพวกเขาไม่ได้ลงทะเบียนอย่างครบถ้วน

และรายงานการตรวจสอบอีกชิ้นที่เปิดเผยในวันศุกร์ (30 พฤษภาคม) ชี้ว่า 64% ของศูนย์การแพทย์ในสังกัดกระทรวงกิจการทหารผ่านศึกสหรัฐฯที่มีจำนวนมากกว่า 200 แห่ง นั้นมีอย่างน้อย 1 จุดในประเด็นน่าสงสัยในขั้นตอนการรับนัดเพื่อการรักษา

นอกจากนี้ โอบามายังได้รับรายงานว่า การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบไม่ได้เกิดขึ้นเพียงในฟีนิกซ์เท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นกับหน่วยงานภายใต้กระทรวงกิจการทหารผ่านศึกสหรัฐฯทั่วประเทศ ทำให้โอบามาต้องออกปากในวันศุกร์ (30 พฤษภาคม) ว่า “มันเป็นสิ่งที่รับไม่ได้โดยสิ้นเชิง ฮีโร่ของเราสมควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุด พวกเขาสมควรได้รับมัน” โอบามากล่าว

ชินเซกีได้ปลดเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากโรงพยาบาลฟีนิกซ์ และได้ประกาศยกเลิกจ่ายเงินโบนัสให้ผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงกิจการทหารผ่านศึกสหรัฐฯ รวมถึงได้สั่งการให้กระทรวงติดต่อคนไข้ทุกคนในรายชื่อรอรับการรักษาตัวของโรงพยาบาลฟีนิกซ์เพื่อรับนัดจากแพทย์โดยด่วน

ทั้งนี้ ระบบการรักษาพยาบาลของกระทรวงทหารผ่านศึกสหรัฐฯรับผิดชอบให้บริการคนไข้ราว 9 ล้านคน ที่เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบของสหรัฐฯ โดยศูนย์การแพทย์ทั่วประเทศต้องเผชิญกับคนไข้อายุมากจากสมรภูมิเกาหลีและเวียดนาม รวมไปถึงการหลั่งไหลเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องของทหารผ่านศึกที่บาดเจ็บจากอิรัก และอัฟกานิสถานจากการที่ก่อนหน้านี้ชินเซกีเห็นความจำเป็นที่ต้องให้ทหารจากสมรภูมิอัฟกานิสถาน และเกาหลีใต้ ต้องได้รับการบำบัดจิตแก้ไขความเครียด