xs
xsm
sm
md
lg

“ร็อคกีเฟลเลอร์ส” กร้าวจะ “ถอนทุน” มหาศาลจากธุรกิจเชื้อเพลิงฟอสซิลไปทุ่มให้พลังงานสะอาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์ - “ร็อคกีเฟลเลอร์ส” อภิมหาเศรษฐีเจ้าของกิจการน้ำมัน สแตนด์ดาร์ดออยล์, และองค์กรการกุศล ตลอดจนผู้ครอบครองสินทรัพย์มูลค่ามหาศาลรายอื่นๆ วานนี้ (22 ก.ย.) ร่วมกันให้คำมั่นว่า จะถอนเงินลงทุนจากธุรกิจเชื้อเพลิงฟอสซิลทั้งหมดซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

กลุ่มพันธมิตรเพื่อการถอนทุนและการลงทุนระดับโลก ได้ออกมาให้คำมั่น และประกาศรายชื่อสมาชิกใหม่ หนึ่งวันหลังบรรดาผู้นำของ 120 ประเทศประกาศในที่ประชุมองค์การสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศว่า ถึงวิธีการที่พวกเขาจะร่วมมือกับโลกในการยับยั้งไม่ให้อุณหภูมิพุ่งสู่สูงจนกลายเป็นภัยคุกคาม
จอห์น เดวิดสัน ร็อคกีเฟลเลอร์ส มหาเศรษฐีชาวอเมริกันเจ้าของกิจการน้ำมันสแตนดาร์ดออยล์ และผู้ก่อตั้งมูลนิธิการกุศล รอคเกอเฟลเลอร์ส (1839 - 1937)
นับตั้งแต่มีกาถอนเงินลงทุนเมื่อ 3 ปีก่อน บุคคลราว 650 คนและสถาบันอีก 180 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงองค์กรจัดตั้งใหม่อีก 50 แห่ง ซึ่งถือครองสินทรัพย์รวมกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้ให้คำมั่นว่า จะดำเนินวิธีการต่างๆ เพื่อถอนทุนจากธุรกิจเชื้อเพลิงฟอสซิลในช่วงเวลา 5 ปี

หนึ่งในผู้ลงนามในสัญญา คือองค์การ “ร็อคกีเฟลเลอร์ส บราเธอร์ส ฟันด์” ซึ่งสตีเฟน ไฮนซ์ ทายาทมหาเศรษฐีเจ้าของกิจการน้ำมันสแตนด์ดาร์ดออยล์ จอห์น ดี. ร็อคกีเฟลเลอร์ส กล่าวว่า การถอนเงินลงทุนจากธุรกิจเชื้อเพลิงฟอสซิลจะเป็นไปตามความต้องการของจอห์น ดี. หากเขายังมีชีวิตอยู่

ไฮนซ์ระบุในคำแถลงว่า “เราค่อนข้างมั่นใจว่า ถ้าวันนี้พ่อยังอยู่ ยังเป็นนักธุรกิจที่ฉลาดหลักแหลม และเก็งการณ์ไกล เขาก็จะถอนทุนจากกิจการเชื้อเพลิงฟอสซิล แล้วหันไปลงทุนกับพลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

องค์กรให้คำปรึกษาเพื่อการกุศล “อราเบลลา แอดไวเซอร์ส” ระบุว่า นับตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2014 มหาวิทยาลัย คริสตจักร เมือง รัฐ โรงพยาบาล กองทุนบำนาญ และอื่นๆ ทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศที่ออกมาให้คำมั่นว่าจะเปลี่ยนทิศทางการลงทุนด้านพลังงานได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตัว จาก 74 แห่งเป็น 180 แห่ง

สถาบันการศึกษาอันมีชือเสียงแห่งหนึ่ง ซึ่งออกมาประกาศถอนเงินทุนจากธุรกิจเชื้อเพลิงฟอสซิล คือมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งเมื่อเดือนพฤษภาคมแถลงว่า จะไม่ใช้เงินบริจาค 1.87 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อลงทุนกับบรรดาบริษัทเหมืองถ่านหินอีกต่อไป

ในเวลาเดียวกันวิทยาลัยศิลปศาสตร์ที่มีเล็กกว่าบางแห่งก็ออกมาประกาศหันหลังให้เชื้อเพลิงฟอสซิลเช่นกัน ขณะที่สถาบันการศึกษาบางแห่งที่ใหญ่กว่ายังคงลังเล

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียได้จัดการลงมติภายใน ซึ่งผลที่ออกมาคือสถาบันแห่งนี้จะยังลงทุนในธุรกิจเชื้อเพลิงฟอสซิลต่อไป จนจุดชนวนให้เกิดกระแสความไม่พอใจในหมู่นักศึกษาที่เคลื่อนไหวให้มหาวิทยาลัยตีตนออกห่างจากน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน

วานนี้ (22) เดสมอนด์ ตูตู อาร์ชบิชอปชาวแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวต่อต้านการเหยียดผิวคนสำคัญ ผู้ที่ออกมาประกาศกร้าวอยู่เสทอว่า การเปลี่ยนทิศทางการลงทุนด้านพลังงานเชื้อเพลิงเป็นสิ่งจำเป็น ก็ออกมาเรียกร้องผ่านทางคลิปวีดีโอให้ทุกฝ่ายยุติการสำรวจแหล่งเชื้อเพลิงฟอสซิล

เขาเน้นย้ำว่า เราไม่สามารถสนองความกระหายอยากเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยลืมที่คิดถึงวันพรุ่งนี้ได้อีกต่อไป เพราะกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้ก็สายเกินไปเสียแล้ว

กำลังโหลดความคิดเห็น