เอเอฟพี - ทำเนียบประธานาธิบดียูกันดาเผยวันนี้ (22 ก.ย.) ว่า ประธานาธิบดี โยเวรี มูเซเวนี ถูกขัดขวางไม่ให้เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในมลรัฐเทกซัส เนื่องจากถูกแรงต่อต้านของพวกนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิชาวสีม่วงในสหรัฐฯ
ประธานาธิบดียูกันดาถูกนานาชาติประณามอย่างหนัก ภายหลังที่เมื่อไม่เดือนที่แล้ว รัฐสภายูกันดาผ่านร่างกฎหมายฉบับหนึ่ง ซึ่งระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตต่อผู้มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ แม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญของชาติแอฟริกาแห่งนี้จะพิพากษาให้ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวเป็นโมฆะก็ตาม
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มูเซเวนีวัย 70 ปี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้นำที่ปกครองประเทศยาวนานที่สุดคนหนึ่งในทวีปแอฟริกา ได้เดินทางไปยังเมืองเออร์วิง มลรัฐเทกซัส เพื่อพบปะกับบรรดานักธุรกิจที่สนใจการลงทุนในยูกันดา และบรรดาพลเมืองที่พลัดถิ่นไปอาศัยอยู่ในแดนอินทรี
ซาราห์ คากิงโก โฆษกของผู้นำยูกันดาเปิดเผยว่า มูเซเวนีกล่าวว่า “เหล่าผู้ติดตามของผมได้จองห้องพักให้ผมไว้แล้ว แต่กลับถูกพวกรักร่วมเพศขัดขวาง”
มูเซเวนีกล่าวว่า “ผมพูดว่า ไปบอกคนที่เชิญผมมา ให้หาที่นอนให้ที ผมไม่ได้อยากมาเทกซัสจนเนื้อเต้นเสียเมื่อไรกัน”
แรกเริ่มเดิมที ประธานาธิบดีมูเซเวนี ได้จองห้องพักที่โรงแรมระดับ 5 ดาวในเมืองเออร์วิง แต่ถูกกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิชาวสีม่วงลอบบีขัดขวางจนโรงแรมนี้ยกเลิกห้องที่จองเอาไว้ โดยเจ้าหน้าที่ในยูกันดากล่าวว่า ประธานาธิบดีก็สามารถหาที่พักที่โรงแรมอื่นได้ในที่สุด
แม้ว่ากฎหมายต่อต้านเกย์ ที่เสนอต่อรัฐสภายูกันดานั้นจะได้รับความนิยมจากประชาชนในประเทศ แต่เหล่าองค์กรรณรงค์เพื่อสิทธิได้ตราหน้าว่าเป็นกฎหมายโหดและ “เลวทรามต่ำช้า” ทั้งยังถูกชาติที่บริจาคเงินช่วยเหลือ ยูกันดา รายใหญ่หลายประเทศรุมประณาม จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ร่างกฎหมายฉบับนี้ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้เป็นโมฆะ เนื่องจากผ่านการลงมติในรัฐสภา ทั้งที่มีสมาชิกสภาไม่ครบองค์ประชุม
บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนยูกันดากำลังเตรียมเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ให้รัฐสภาลงมติอีกครั้ง และพวกเขามั่นใจว่า จะต้องได้รับความเห็นชอบจาก ส.ส.ครบตามจำนวนที่กำหนด
อนึ่ง พฤติกรรมรักร่วมเพศถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในยูกันดา และต้องถูกระวางโทษจำคุกอยู่แล้ว ถึงแม้จะไม่มีการประกาศใช้กฎหมายอันเข้มงวดฉบับนี้ก็ตาม