xs
xsm
sm
md
lg

รบ.ยูกันดาจ่อออกกม.เอาผิดผู้แพร่เชื้อเอดส์ "โดยเจตนา" คกก.เอดส์ชี้กฎหมายใหม่ "เลอะเทอะ"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี – คณะกรรมการต่อต้านโรคเอดส์แห่งชาติยูกันดาชี้ว่า ร่างกฎหมายโรคเอดส์ที่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภานั้นเป็นเรื่อง “เลอะเทอะ” และเรียกร้องให้ประธานาธิบดียูกันดาอย่าได้ลงนามรับรองกฎหมายฉบับนี้

“ผมได้เสนอให้ประธานาธิบดีอย่าลงนามในกฎหมายฉบับนี้” วิแนนด์ นันทุลยา ประธานคณะกรรมการต่อต้านเอดส์แห่งชาติยูกันดา ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ บอกต่อผู้สื่อข่าว

เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รัฐสภายูกันดามีมติเห็นชอบร่างกฎหมายฉบับใหม่ ซึ่งกำหนดให้การแพร่เชื้อเอชไอวี "โดยเจตนา" เป็นความผิดทางอาญา

ส.ส.ยูกันดาหลายคนโต้แย้งว่า ร่างกฎหมายนี้จำเป็นต่อการยับยั้งการติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้น แต่บรรดากลุ่มสิทธิชี้ว่า หากกฎหมายนี้ผ่านการลงนามจากประธานาธิบดี โยเวรี มูเซเวนี ก็รังแต่จะทำให้ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีถูกหยามเหยียด และผู้คนก็จะไม่กล้าไปรับการตรวจสอบมากยิ่งขึ้น

เมื่อวันศุกร์(6) คณะกรรมการต่อต้านเอดส์แห่งชาติยูกันดากล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้จะขัดขวางความพยายามยับยั้งการแพร่เชื้อเอชไอวี

“ถ้าสิ่งนี้เป็นกฎหมายขึ้นมา คนสติดีๆ ที่ไหนจะกล้าไปรับการตรวจสอบ แล้วยิ่งถ้าเขาแพร่เชื้อไวรัส เขาก็จะสามารถอ้างได้ตลอดว่า เขาไม่รู้ว่าตนมีเลือดบวก” นันทุลยา อธิบายถึง “ความเลอะเทอะ” ของกฎหมายนี้

“แล้วนี่คือสิ่งที่เราต้องการหรือ... เปล่าเลย! เราอยากให้ประชาชนเข้ารับการตรวจสอบ จากนั้นเราก็จะสามารถส่งพวกเขาเข้ารับการรักษาต่อไป” เขากล่าว

ยูกันดาเคยขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับเชื้อเอชไอวี และ มูเซเวนี ก็เป็นผู้นำแอฟริกาคนแรกๆ ที่กล้าออกมาพูดถึงเรื่องโรคเอดส์อย่างเปิดเผย

รัฐบาลยูกันดาชูธงการรณรงค์ให้สังคมเกิดความตระหนักรู้ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงเมื่อช่วงปลายทศวรรษ 1980 และ 1990 จนทำให้อัตราการติดเชื้อร่วงลงจากเลขสองหลักมาเหลือหลักเดียว

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลสถิติล่าสุดระบุว่า อัตราการแพร่เชื้อในยูกันดาได้พุ่งขึ้นเป็น 7.3 เปอร์เซ็นต์ในปี 2011 จาก 6.4 เปอร์เซ็นต์ในช่วงปี 2004-2005 ซึ่งหน่วยงานด้านสาธารณสุขต่างตำหนิถึงความชะล่าใจมากเกินไป

กำลังโหลดความคิดเห็น