เอเอฟพี – ชาวเคิร์ดที่มีถื่นที่อยู่ในซีเรียกว่า 130,000 คนแห่ลี้ภัยข้ามพรมแดนเข้าสู่ตุรกี หลบหนีการรุกคืบของกลุ่มนักรบญิฮาดรัฐอิสลาม (ไอเอส) นูมาน เคอร์ตุลมุส รองนายกรัฐมนตรีตุรกีกล่าววันนี้ (22)
“จำนวนชาวซีเรียเหล่านี้เกิน 130,000 รายแล้ว” เขาบอกกับผู้สื่อข่าวในกรุงอังการา พร้อมเตือนว่าตัวเลขดังกล่าวมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นอีก เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากลุ่มหัวรุนแรงไอเอสได้เข้ายึดหมู่บ้านหลายสิบแห่ง ขณะที่พวกเขากำลังเข้าโจมตีเมืองไอน์ อัล-อาหรับ หรือที่เรียกในภาษาเคิร์ดว่า เมืองโคบานี ซึ่งอยู่ประชิดพรมแดนแห่งนี้
“ถ้าการโจมตีของกลุ่มไอเอสไอแอลในเขตโคบานียังคงดำเนินต่อไปเช่นนี้อยู่ ตุรกีอาจเผชิญกับการไหลบ่าเข้ามาอย่างเนืองแน่น” เคอร์ตุลมุส กล่าวโดยใช้ชื่ออีกชื่อหนึ่งเรียกกลุ่มไอเอส
“เราได้ใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นสำหรับรองรับการไหลบ่าของประชาชนผู้ลี้ภัยที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าเราไม่ต้องการเช่นนั้น แต่เราก็พร้อม” เขากล่าวเสริม
ยอดรวมล่าสุดนี้เป็นการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากตัวเลข 104,000 ที่ได้รับจากศูนย์อำนายการสถานการณ์ฉุกเฉินของตุรกีเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (15)
เมื่อวันเสาร์ (20) หน่วยงานผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ระบุว่า อาจมีผู้ลี้ภัยหลบหนีมามากถึงหลายแสนคน
เคอร์ตุลมุส กล่าวว่า “เราเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด จำนวนประชาชนผู้ลี้ภัยยังไปไม่ถึงระดับนั้น แต่เราจะทำทุกอย่างเพื่อต้อนรับพวกเขาที่กำลังเข้ามายังตุรกี”
ก่อนที่จะถูกกลุ่มไอเอสโจมตี เมืองโคบานี ซึ่งเป็นเมืองที่มีชาวเคิร์ดอยู่หนาแน่นเป็นอันดับ 3 ในซีเรียก็ยังค่อนข้างปลอดภัยอยู่ และเป็นที่พักพิงของผู้พลัดถิ่น 200,000 คนจากที่อื่นๆ ในซีเรีย
ศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉินของตุรกี (AFAD) ระบุว่า ทางการกำลังควบคุมพรมแดนที่ติดกับซีเรียอย่างเข้มงวด
“พรมแดนดังกล่าวยังเปิดอยู่ แต่เฉพาะที่เมืองเมอร์ซิตพินาร์เท่านั้น เพื่อการบริหารจัดการการข้ามพรมแดนที่ดีกว่า” เจ้าหน้าที่ AFAD ระบุ
“มีเพียงด่านเดียวที่เปิดไว้สำหรับชาวซีเรียพลัดถิ่น เพื่อให้เราสามารถจัดการควบคุมเป็นคนๆ ไป ตลอดจนช่วยปฐมพยาบาลและให้วัคซีนแก่พวกเขาถ้าจำเป็น” เจ้าหน้าที่ ระบุ