เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ชาวรัสเซียนับหมื่นออกมาเดินขบวนที่ใจกลางกรุงมอสโกวานนี้ (21 ก.ย.) เพื่อแสดงท่าทีคัดค้านที่รัฐบาลเครมลินเข้าไปพัวพันกับวิกฤตการณ์ในยูเครน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ชาวแดนหมีขาวได้แสดงพลังต่อต้านสงครามนับตั้งแต่ความขัดแย้งเริ่มปะทุขึ้นเมื่อเดือนเมษายน
คลื่นมหาชนได้เคลื่อนขบวนไปตามท้องถนนพร้อมตะโกนประณามบทบาทของมอสโกในการสู้รบทางภาคตะวันออกของยูเครนซึ่งได้คร่าชีวิตทหารและพลเรือนไปแล้วเกือบ 3,000 คน และยังทำให้ชาวรัสเซียกับชาวยูเครนต้องบาดหมางกัน
กิจกรรมซึ่งกินเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงถือเป็นการแสดงพลังต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน หวนคืนสู่อำนาจเป็นสมัยที่ 3 เมื่อปี 2012 โดยผู้ประท้วงต่างชูป้ายข้อความต่อต้านนโยบายรัฐ เปิดเพลง ตีกลอง และร้องเพลงปลุกใจกันอย่างคึกคัก บางคนถือธงชาติสีฟ้าและเหลืองของยูเครน และป่าวร้องว่า “สันติจงมีแด่ยูเครน อิสรภาพจงมีแด่รัสเซีย ปูตินจงเข้าคุก”
ผู้ประท้วงส่วนใหญ่ซึ่งถือป้ายข้อความ “อภัยให้เราด้วย ยูเครน” และ “ปูติน หยุดโกหก” เรียกร้องให้ประธานาธิบดีสั่งถอนทหารรัสเซียทั้งหมดออกจากยูเครน และหยุดก้าวก่ายกิจการภายของประเทศสลาฟแห่งนี้เสียที
“ผมเชื่อว่าสงครามครั้งนี้เกิดเพราะ ปูติน ยั่วยุ” วลาดิมีร์ คาชิตซิน วัย 44 ปี ซึ่งนั่งวีลแชร์มาร่วมขบวนด้วยกล่าว
กิจกรรมซึ่งใช้ชื่อว่า “เดินขบวนเพื่อสันติภาพ” (The Peace March) เกิดขึ้นในขณะที่สื่อรัสเซียต่างปิดปากเงียบเรื่องที่ทหารหมีขาวถูกส่งเข้าไปในยูเครน
กรุงเคียฟและชาติตะวันตกต่างกล่าวหาว่ามอสโกส่งทหารเข้าไปช่วยพวกกบฏนิยมรัสเซียต่อสู้กับกองทัพของรัฐบาลยูเครน ซึ่งทำเนียบเครมลินปฏิเสธเรื่องนี้มาโดยตลอด
กลุ่มผู้ประท้วงในกรุงมอสโกซึ่งมีทุกเพศทุกวัย ทั้งประชาชนธรรมดาและบุคคลที่มีชื่อเสียง ต่างประณาม ปูติน ที่ส่งทหารเข้าไปต่อสู้กับกองทัพยูเครน และยังจัดพิธีศพแบบลับๆ ให้ทหารที่สละชีพ
“ฉันไม่อยากเห็นคนหนุ่มของเราต้องไปตายในยูเครน เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นในเชชเนียหรืออัฟกานิสถาน” มารินา บักรอฟนิโควา วัย 73 ปีกล่าว
ผู้ประท้วงเริ่มเคลื่อนขบวนจากจัตุรัสพุชคินและไปจบลงที่ถนนซาคารอฟ ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่เมื่อช่วงปี 2011-2012
ตำรวจมอสโกซึ่งปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ระบุว่า มีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมเดินขบวนครั้งนี้เกือบ 5,000 คน ซึ่งร่วมถึงพวกที่สนับสนุนสาธารณรัฐประชาชนลูกานสก์ และโดเนตสก์ด้วย ในขณะที่ เซอร์เกย์ ดาวิดิส หนึ่งในผู้จัดกิจกรรมต่อต้านรัฐบาล กล่าวว่าเป็นการยากที่จะระบุจำนวนผู้เข้าร่วมที่แน่นอน แต่เชื่อว่าน่าจะมีประชาชนออกมาแสดงพลังมากถึง 40,000 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ฝ่ายบริหารกรุงมอสโกอนุญาตให้มีการระดมมวลชนได้ไม่เกิน 50,000 คน