เอเอฟพี - สองคู่แข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอัฟกานิสถานได้ลงนามข้อตกลงเพื่อแบ่งอำนาจการปกครองประเทศกันในวันนี้ (21 ก.ย.) ทำให้ปมความขัดแย้งเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งผู้นำประเทศยุติลงในที่สุด
การประกาศผลการนับคะแนนครั้งสุดท้ายได้ถูกกำหนดไว้แล้ว หลังจากที่ต้องล่าช้าอันเนื่องมาจากการเจรจาเพื่อไขทางตันให้กับอัฟกานิสถาน ขณะที่สหรัฐฯ เตรียมจะถอนทหารออกจาประเทศนี้หลังจากที่สู้รบกับกลุ่มตอลิบานมายาวนานกว่า 13 ปี
เจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง บอกกับเอเอฟพีว่า การประกาศผลการนับคะแนนจะมีขึ้นในคืนวันอาทิตย์ (21 ก.ย.) หลังจากที่ลงนามข้อตกลงกันไปแล้ว
อัชรัฟ กอห์นี ผู้ชนะการเลือกตั้งเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน จะได้รับตำแหน่งประธานาธิบดี ส่วนทางด้าน อับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์ ซึ่งเป็นคู่แข่งจะได้รับตำแหน่งใหม่ "ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร" (ซีอีโอ) ซึ่งจะทำหน้าที่คล้ายกับนายกรัฐมนตรี
ก่อนหน้านี้ ทั้งฝ่ายกอห์นีและอับดุลเลาะห์ ต่างก็อ้างว่าตนนั้นชนะการเลือกตั้ง ทำให้การเลือกตั้งผู้นำประเทศต้องคาราคาซังและไม่อาจหาข้อยุติได้ จนสหรัฐฯ ต้องเข้ามาผลักดันให้เกิด "รัฐบาลสามัคคีแห่งชาติ" เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สถานการณ์ของประเทศนี้ต้องย้อนกลับไปสู่ช่วงสงครามกลางเมืองของกลุ่มคนต่างเชื้อชาติดังเช่นในปี 1990
ทั้งสองคนได้ร่วมพิธีลงนามข้อตกลงซึ่งดำเนินการกันในทำเนียบประธานาธิบดี ก่อนที่พวกเขาจะสวมกอดกัน แล้วปล่อยให้ประธานาธิบดี ฮามิด คาไซ ได้กล่าวปราศรัย
ทั้งนี้ การนับคะแนนต้องคาราคาซังมานานนับเดือน ท่ามกลางการกล่าวหาว่ามีการโกงเลือกตั้งเกิดขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจอ่อนแอยิ่งขึ้นและทำให้พวกตอลิบานได้ใจ
การร่วมมือกันปกครองประเทศของทั้ง 2 ฝ่าย ที่มีภูมิหลังต่างกัน ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องง่าย อับดุลเลาะห์ เป็นอดีตนักรบต่อต้านกลุ่มตอลิบาน ที่ได้รับการสนับสนุนจากชนเผ่าทาจิกส์และกลุ่มคนเชื้อชาติอื่นๆ ที่อยู่ทางเหนือของประเทศ ขณะที่กอห์นีเป็นอดีตนักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลก ได้รับการสนับสนุนจากชนเผ่าปาชตุนที่อยุ่ทางใต้และตะวันออก
ขณะที่การแบ่งสันปันส่วนในตำแหน่งอื่นๆ ยังอาจจะทำให้เกิดแรงเสียดทานขึ้นมาได้ เพราะคาไซที่ปกครองอัฟกานิสถานมายาวนานได้สร้างเครือข่ายอุปถัมภ์เอาไว้ จากการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ต่างๆ ในทุกระดับชั้นของรัฐบาล
จากร่างเอกสารที่เกี่ยวกับรัฐบาลสามัคคีแห่งชาติที่นักข่าวเอเอฟพีได้เห็นมา ตำแหน่งซีอีโอจะทำหน้าที่คล้ายนายกรัฐมนตรีเป็นเวลา 2 ปีต่อหนึ่งวาระ
รัฐบาลใหม่จะต้องเผชิญกับการทดสอบครั้งสำคัญ ทั้งในด้านความมั่นคงและด้านเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่ลงไปทุกขณะ
ก่อนหน้านี้อนาคตของความสัมพันธ์ระหว่างอัฟกานิสถานกับพันธมิตรนาโต้ที่นำโดยสหรัฐฯ ยังไม่มีความชัดเจน หลังจากที่คาไซปฏิเสธที่จะลงนามข้อตกลงด้านความมั่นคง ที่จะยอมให้กำลังทหารต่างชาติ ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในอัฟกานิสถานหลังจากสิ้นสุดปีนี้
ผู้บัญชาการระดับสูงของนาโต้ ระบุว่า รัฐบาลสามัคคีแห่งชาติควรจะหาทางสรุปข้อตกลงโดยเร็ว
พลเอก ฟิลิป บรีดเลิฟ ระบุไว้เมื่อวันเสาร์ (20 ก.ย.) ว่าเขาหวังจะได้เห็นการลงนามอย่างรวดเร็ว ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะจะทำให้เกิดเสถียรภาพต่อการเจรจาเรื่องที่จะให้การสนับสนุนแก่อัฟกานิสถานต่อไป
ภารกิจสู้รบในอัฟกานิสถานของนาโต้กำลังจะสิ้นสุดลงและต้องถอนกำลังทหารออกในเดือนธันวาคมนี้ แต่ถ้าหากมีการลงนามบรรลุข้อตกลงเรื่องการสนับสนุน ก็จะทำให้สามารถคงกำลังทหาร 12,000 นายเอาไว้ในอัฟกานิสถานได้จนถึงปี 2015 เพื่อให้การสนับสนุนและฝึกฝนแก่ทหารอัฟกัน