เอพี/เอเจนซีส์ – โรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือโรคชิคุนกุนยา ที่มียุงลายเป็นพาหะระบาดหนักในสาธารณรัฐโดมินิกัน ส่งผลให้มีผู้ป่วยราว 500,000 คน รวมถึงทารกแรกคลอดอีก 109 ราย สาธารณสุขโดมินิกันแถลงในวันศุกร์(19)
ทั้งนีเชื้อไวรัสชิคุนกุนยาส่งผ่านทารกแรกคลอดจากมารดาที่ล้มป่วยในขณะให้กำเนิดบุตร คาร์เมน อดัมส์ (Carmen Adames) ผู้รับผิดชอบการป้องกันการระบาดทางสาธารณสุขโดมินิกันให้สัมภาษณ์ พร้อมยืนยันว่า ไม่มีทารกรายใดเสียชีวิต
สาธารณรัฐโดมินิกันได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบกับการระบาดของโรคไข้ปวดข้อยุงลายมากที่สุดซึ่ง WHO ได้บันทึกการแพร่ระบาดของโรคนี้ในโดมินิกันเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2013
ทั้งนี้พบผู้ป่วยโรคชิคุนกุนยาเป็นครั้งแรกในเดือนมีนาคม ซึ่งองค์การสุขภาพแพนอเมริกาได้ให้ความเห็นว่า คาดว่าจะมีผู้ป่วยอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคนอยู่ในซีกโลกนี้ โดยอาการป่วยด้วยโรคชิคุนกุนยาจะมีไข้สูงและมีอาการปวดข้อ แต่มักจะไม่เสียชีวิต แต่อาการปวดข้ออาจจะต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะหาย มีอาการคล้ายไข้ เดงกี แต่ต่างกันที่ไม่มีการรั่วของพลาสมาออกนอกเส้นเลือด จึงไม่พบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมากจนถึงมีการช็อก
การหายจากโรคจะขึ้นกับอายุของผู้ป่วย ในผู้ป่วยที่มีอายุน้อยจะหายภายใน 5-15 วัน ผู้ป่วยวัยกลางคนจะหายภายใน 1-2.5 เดือน ซึ่งเป็นแนวโน้มเดียวกับความรุนแรงของอาการของโรคด้วย ซึ่งผู้ที่อายุน้อยและสตรีที่ตั้งครรภ์จะมีความรุนแรงของโรคน้อยกว่า
โรคไข้ปวดข้อยุงลายไม่มีวัคซีน และวิธีรักษายังไม่แน่นอนแต่มีอัตราเสียชีวิตต่ำมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเร่งออกเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ทำลายแหล่งเพาะพันธ์ยุงที่เป็นน้ำนิ่ง
ต้นกำเนิดของไวรัสชิคุนกุนยามาจากทวีปแอฟริกา โดยพบครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2495 บริเวณตอนใต้ของประเทศแทนซาเนีย ตั้งชื่อตามภาษา "Kimakonde"ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นของแอฟริกา ที่หมายถึงอาการปวดข้อรุนแรง ส่วนในไทยโรคชิคุนกุนยาถูกพบครั้งแรกในปี พ.ศ. 2501 โดยนายแพทย์ W McD Hamnon ได้ทำการแยกเชื้อจากผู้ป่วยในโรงพยาบาลเด็ก กรุงเทพฯ
และในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีรายงานการพบโรคชิคุนกุนยาที่เปรู โดยเฮนรี รีบาซา อธิบดีประจำกระทรวงสาธารณสุขของเปรู กล่าวว่า พลเมืองชายและหญิงที่เข้ารับการวิฉิจฉัยโรคในกรุงลิมา เมื่อไม่นานมานี้พวกเขาได้เดินทางไปที่สาธารณรัฐโดมินิกัน สถานที่พักผ่อนยอดนิยมของแถบแคริบเบียน จุดซึ่งมีการตรวจพบเชื้อไวรัสชนิดนี้
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ก่อนหน้าที่สหรัฐฯจะยกเลิกโครงการสร้างอาวุธชีวภาพ เคยมีการประเมินความเป็นไปได้ที่จะใช้เชื้อไวรัสชนิดนี้มาผลิตเป็นอาวุธ