xs
xsm
sm
md
lg

สาวจีนฉุนขาดถูก “หลอกฟัน” โร่ฟ้องเรียก “ค่าเสียพรหมจรรย์” 2 ล้าน แต่ศาลหั่นเหลือ “แสนเดียว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - รายงานข่าวระบุวันนี้ (17 ก.ย.) ว่า หญิงชาวจีนคนหนึ่งได้รับค่าเสียหายเกือบ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 116,000 บาท) จากการฟ้องร้องชายที่ “ละเมิดสิทธิในพรหมจรรย์ของเธอ” ภายหลังที่เขาตามจีบเธอ แล้วหลอกว่าจะตกแต่งเธอเป็นภรรยา

เครือข่ายสถานีโทรทัศน์และวิทยุ “เซี่ยงไฮ้ มีเดีย” รายงานว่า หญิงชายคู่นี้ได้ตกลงคบหาดูใจเป็นแฟนกัน แต่ภายหลังหญิงสาวคนดังกล่าวพบว่า แฟนหนุ่มของเธอมีภรรยาเป็นตัวเป็นตนแล้ว ก็ตัดสินใจยื่นฟ้องเขาฐานหลอกให้เธอเสียความบริสุทธิ์ พร้อมกล่าวหาว่า เขาแสร้งทำทีเป็นหนุ่มโสด ทั้งยังรับปากกับเธอเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า จะยกให้เธอเป็นภรรยาของเขา

โฆษกศาลเขตผู่ตงใหม่แถลงยืนยันว่า ศาลได้รับฟ้องคดีนี้จริง และสั่งชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวนที่ว่ามา แต่กล่าวว่า ชายผู้นี้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของศาล

ทั้งนี้ หนุ่มสาวทั้งสองรู้จักกันในโลกออนไลน์เมื่อปี 2009 แต่เริ่มคบหาดูใจกันในปี 2013 จากนั้นทั้งคู่ก็เดินทางไปสิงคโปร์ด้วยกัน โดยฝ่ายหญิงยอมตกลงปลงใจมีสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างแดนครั้งนั้นเอง

หลังจากหนุ่มแซ่หลี่ คนดังกล่าว ตัดสัมพันธ์กับหญิงผู้โชคร้ายอย่างปัจจุบันทันด่วน หญิงคนนี้ก็บุกไปหาเขาถึงบ้านในสภาพน้ำตานองหน้า จึงได้เห็นกับตาว่า เขาอยู่กับภรรยา

หญิงสาวคนนี้ ได้ยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีกับชายคนนี้ โดยกล่าวหาว่าเขาละเมิดสิทธิในพรหมจรรย์ และสุขภาพของเธอ ทั้งยังเรียกค่าทำขวัญเป็นเงินกว่า 81,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.6 ล้านบาท) บวกกับค่ารักษาพยาบาลอีก 250 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8 พันบาท)

ศาลแดนมังกรพิจารณาว่า โจทก์เรียกร้องค่าเสียหาย “เกินควร” แต่ระบุในคำตัดสินว่า “สิทธิในพรหมจรรย์” ควรได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย เนื่องจากเป็น “สิทธิทางศีลธรรม” เช่นเดียวกับ “เสรีภาพทางเพศ การได้รับความปลอดภัยทางเพศ และความบริสุทธิ์ทางเพศ”

ศาลชี้ว่า “การละเมิดสิทธิในพรหมจรรย์อาจนำไปสู่การทำร้ายร่างกาย และสุขภาพ การลิดรอนเสรีภาพ และการทำลายชื่อเสียง... จึงต้องมีการชดใช้ค่าเสียหาย” แต่ศาลไม่ได้ชี้แจงว่า เหตุใดจึงประเมินว่าโจทก์ควรได้รับค่าชดเชยเกือบ 5,000 ดอลลาร์

จำเลยไม่ได้ไปขึ้นศาล แต่ทนายความของเขาปฏิเสธว่า ลูกความของตนไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวรายนี้

แม้ว่าการปฏิรูปเศรษฐกิจจะทำให้แดนมังกรมีเสรีภาพในเรื่องเพศมากขึ้น และพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนก็ได้ให้การรับรองอย่างเป็นทางการว่า หญิงและชายมีสถานะเท่าเทียมกัน แต่ประชาชนชาวจีนก็ยังคงมีทัศนคติต่อเรื่องเพศแบบธรรมเนียมนิยมกันอย่างกว้างขวาง และรัฐบาลก็ยังดำเนินนโยบายอนุรักษ์นิยมในบางลักษณะ เป็นต้นว่า บังคับให้พลเมืองวางแผนครอบครัว และไม่ยอมรับการแต่งงงานของบุคคลรักร่วมเพศ

ผู้แสดงความคิดเห็นรายหนึ่งได้ตั้งคำถามรัฐบาลผ่านทางไมไครบล็อกว่า “การเรียกร้องค่าชดเชยหลังถูกหลอกเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ แต่ไอ้สิทธิในพรหมจรรย์นี่มันคืออะไร แล้วมันมาจากหลักกฎหมายข้อไหน”

หญิงคนหนึ่งที่เรียกแทนตัวเองว่า ซู กิงเหลียน ชี้ว่า “กฎหมายจีนยังพูดถึงสิทธิในพรหมจรรย์อยู่อีกเหรอเนี่ย กีดกันทางเพศกันจริงๆ”
กำลังโหลดความคิดเห็น