เอเอฟพี - สายการบินฝรั่งเศส “แอร์ฟรานซ์” ออกมาระบุว่าอาจจะต้องระงับเที่ยวบินกว่าครึ่งในวันจันทร์ (15 ก.ย.) เนื่องจากบรรดานักบินพากันหยุดงานประท้วงแผนทำสายการบินต้นทุนต่ำ
แคเธอรีน จูด ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของแอร์ ฟรานซ์ ออกมาระบุในวันอาทิตย์ (14 ก.ย.) คาดว่าจะสามารถให้บริการเที่ยวบินได้ประมาณ 48 เปอร์เซ็นต์จากทั้งหมดที่มีอยู่ โดยที่มีนักบินประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์หยุดงานไปในวันรุ่งขึ้น
ทั้งนี้ สหภาพนักบินได้เรียกร้องให้มีการหยุดงานประท้วงนาน 1 สัปดาห์ ถือว่านานที่สุดในประวัติศาสตร์ของ แอร์ ฟรานซ์ นับตั้งแต่ปี 1998
ทางสายการบินยังได้กำชับด้วยว่า ลูกค้าที่ได้จองเที่ยวบินระหว่างวันที่ 15-22 กันยายน ขอให้เลื่อนการเดินทางออกไปก่อน โดยสามารถนำตั๋วมาขอคืนเงินหรือเปลี่ยนตั๋วใหม่ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม การเจรจากับทางสหภาพฯ จะดำเนินต่อไปจนถึงช่วงเย็นวันอาทิตย์
สหภาพแรงงานเกรงว่า การขยายธุรกิจของแอร์ฟรานซ์ ด้วยการทำสายการบินต้นทุนต่ำ “ทรานเซเวีย” จะนำไปสู่การจ้างงานเอาต์ซอร์สและการทุ่มตลาด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อบรรดานักบิน
“เรื่องนี้มันเกี่ยวกับหลักการบริหาร เราไม่ได้พูดถึงเรื่องการขึ้นค่าแรง” ฌอง หลุยส์ บาร์เบอร์ หัวหน้าสหภาพแรงงานนักบินกล่าว
บาร์เบอร์เตือนอีกว่า สถานการณ์อาจจะเลวร้ายมากขึ้นในวันอังคารและวันพุธ (16-17 ก.ย.) เมื่อบรรดานักบินที่ทำงานในวันจันทร์ จะหยุดงานอย่างถูกต้องตามกฎของสายการบิน
เฟรเดอริก กาเกียร์ บอสใหญ่ของแอร์ฟรานซ์ ประเมินว่า การหยุดงานประท้วงของนักบินจะทำให้สายการบินได้รับความสูญเสียประมาณ 10-15 ล้านยูโรต่อวัน ซึ่งตอนนี้ทีมบริหารจัดการกำลังทำทุกวิถีทางเพื่อแก้ไขสถานการณ์นี้
แอร์ฟรานซ์ระบุว่า ถ้าการหยุดงานยังมีต่อเนื่องหลังวันที่ 15 กันยายน จะส่งผลให้ต้องทำการปรับตารางเที่ยวบินใหม่ ผลกระทบที่ตามมาก็คือ สายการบินจะต้องแจ้งให้ผู้โดยสารได้ทราบก่อนถึงวันเดินทางของพวกเขา
ด้านคู่แข่งอย่างสายการบินต้นทุนต่ำ “อีซีเจ็ต” ก็ได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้ โดยในเที่ยวบินที่ออกจากปารีส เพื่อจะไปเมืองทางใต้อย่างตูลูสและนีซ มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 ที่นั่ง