เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ข้อมูลล่าสุดชี้ เด็กผู้หญิงในภูมิภาคเอเชียใต้ 46 เปอร์เซ็นต์ มีอันต้องแต่งงานก่อนอายุ 18 ปี ส่งผลให้ภูมิภาคแห่งนี้กลายเป็นพื้นที่ที่มี “เจ้าสาวเด็ก” ในอัตราสูงที่สุดของโลก สวนทางกับหลักกฎหมายของนานาประเทศที่กำหนดอายุขั้นต่ำในการสมรสไว้ที่ 18 ปี
รายงานล่าสุดของกองทุนเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือองค์การ “ยูนิเซฟ” ระบุว่า ราว 46 เปอร์เซ็นต์ หรือเกือบครึ่งหนึ่งของเด็กผู้หญิงในภูมิภาคเอเชียใต้ต้องถูกบังคับให้แต่งงานก่อนอายุ 18 ปีขณะที่ 18 เปอร์เซ็นต์หรือราว 1 ใน 5 ของเด็กผู้หญิงในภูมิภาคนี้มีอันต้องแต่งงานก่อนอายุ 15 ปี
ด้านคาริน ฮุลส์ฮอฟ ผู้อำนวยการส่วนภูมิภาคของยูนิเซฟประจำเอเชียใต้ระบุ การแต่งงานก่อนวัยอันควรในเอเชียใต้มีรากฐานมาจากค่านิยมทางสังคม รวมถึงปัจจัยหนุนอื่นๆ อาทิ ฐานะทางเศรษฐกิจที่ยากจน และไร้การศึกษา ตลอดจน การที่สังคมอินเดียโดยเฉพาะในเขตชนบทยังคงให้ความสำคัญกับเพศชายสูงกว่าเพศหญิง ดังนั้นจึงมิใช่เรื่องแปลกที่ครอบครัวชาวอินเดียจำนวนไม่น้อยยังคงเชื่อว่า การให้การศึกษาและการพัฒนาเด็กผู้หญิงนั้นเป็น “การลงทุนที่สูญเปล่า”และการผลักไสเด็กผู้หญิงออกจากครอบครัวด้วย “การแต่งงาน” ถือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ผลสำรวจล่าสุดของยูนิเซฟที่ระบุว่า ราว 46 เปอร์เซ็นต์ หรือเกือบครึ่งหนึ่งของเด็กผู้หญิงในภูมิภาคเอเชียใต้ต้องถูกบังคับให้แต่งงานก่อนอายุ 18 ปีนั้น ถือเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการสำรวจครั้งก่อนของสหประชาชาติเมื่อปี 2005 ที่พบข้อมูลว่า ราว 30 เปอร์เซ็นต์ของเด็กผู้หญิงในอินเดียต้องแต่งงานก่อนอายุ 18 ปี
ทั้งนี้ รายงานล่าสุดของยูนิเซฟระบุว่า นอกเหนือจากอินเดียแล้ว ประเทศที่มีเด็กหญิงถูกบังคับให้แต่งงานก่อนอายุ 18 ปีในอัตราสูงสุดรองลงมา ประกอบด้วยไนเจอร์ ชาด มาลี บังกลาเทศ กินี และสาธารณรัฐแอฟริกากลาง
ขณะที่ไนเจอร์ ชาด บังกลาเทศ มาลี และเอธิโอเปียติดอันดับประเทศที่เด็กผู้หญิงต้องแต่งงานก่อนอายุ 15 ปี สูงที่สุดในโลก
