เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ทางการสหรัฐฯเปิดการสอบสวนนักการทูตชื่อดัง “ซัลมาย คาลิลซาด” ที่มีดีกรีเป็นถึงอดีตเอกอัครราชทูตอเมริกันประจำสหประชาชาติ หลังพบหลักฐานอาจพัวพัน “การฟอกเงิน”
รายงานข่าวของ “โพรฟิล” สื่อดังรายสัปดาห์ของประเทศออสเตรีย ซึ่งอ้างเอกสารลับทางการทูตของสหรัฐฯที่รั่วไหลออกมาระบุว่า ซัลมาย คาลิลซาด อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำองค์การสหประชาชาติในสมัยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช รวมถึงเคยเป็นทูตสหรัฐฯประจำอิรักและอัฟกานิสถาน ถูกทางการสหรัฐฯสอบสวนความผิดฐานต้องสงสัยว่าอาจพัวพันการฟอกเงิน
เอกสารลับทางการทูตที่รั่วไหลออกมาถึงมือสื่อมวลชนคราวนี้ระบุว่า คาลิลซาด วัย 63 ปี ซึ่งเกิดในอัฟกานิสถานและเป็นหนึ่งในชาวอเมริกันมุสลิมเพียงไม่กี่คน ที่มีบทบาทในการกำหนดนโยบายต่างประเทศสหรัฐฯในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้ทำการโอนเงินจำนวนราว 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 48.2 ล้านบาท) ซึ่งได้มาจากการทำ “ธุรกรรมสกปรก” กับบริษัทหลายแห่งทั้งในอิรักและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เข้าบัญชีเงินฝากที่เปิดไว้ในธนาคารแห่งหนึ่งในกรุงเวียนนา เมืองหลวงของออสเตรียเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว โดยที่บัญชีดังกล่าวถูกระบุว่าเป็นชื่อของนางเชรีล เบนาร์ด ภรรยาชาวอเมริกันของคาลิลซาด
ล่าสุดมีรายงานว่า ทางการออสเตรียได้อายัดบัญชีเงินฝากดังกล่าวไว้ตรวจสอบแล้ว ตามการร้องขอจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (ดีโอเจ)
อย่างไรก็ดี โรเบิร์ต บูห์เลอร์ และโฮลเกอร์ บีเลสซ์ ทนายความของคาลิลซาดและภรรยา ออกมาแถลงที่กรุงเวียนนาโดยยืนยัน ลูกความของเขาจะต่อสู้คดีนี้จนถึงที่สุด แต่ไม่ขอเปิดเผยที่มาของเงินดังกล่าวว่ามาจากการทำธุรกรรมประเภทใด
ทั้งนี้ รายงานที่อ้างแหล่งข่าวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ระบุว่า เงินจำนวนดังกล่าวนั้นบางส่วนเป็น “เงินสินบน” ที่คาลิลซาดเรียกรับจากบริษัทเอกชนในอิรักและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อแลกกับการช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าประมูลงานของรัฐบาลอเมริกันในภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมถึงอาจมีเงิน “ค่าคอมมิชชั่น” ที่ได้จาก “ส่วนแบ่งการค้าอาวุธ”สำหรับใช้ทำสงครามในอิรักและอัฟกานิสถานรวมอยู่ด้วย
