เอเอฟพี - ยูเครนเผยเมื่อวันอังคาร(9)กำลังร่างบัญชีอาหารและผลิตภัณฑ์ต่างๆที่มีแผนสั่งห้ามนำเข้าจากรัสเซีย เพื่อตอบโต้สร้างความเจ็บปวดคืนสนองแก่มอสโก ที่ได้แบนขนมหวานของพวกเขาไปก่อนหน้านี้
ถ้อยแถลงนี้ดูท่าว่ามันน่าจะกัดเซาะความสัมพันธ์ระหว่างยูเครนและรัสเซียเพิ่มเติม ไม่กี่วันหลังจากสองชาติเพื่อนบ้านเพิ่งเข้าสู่ข้อตกลงหยุดยิงที่เป้าหมายยุติการลุกฮือของฝ่ายกบฏฝักใฝ่เครมลินทางภาคตะวันออกของยูเครน ที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 2,700 ศพและกระพือสงครามการค้าระหว่างมอสโกกับตะวันตก
อิกอร์ ชาวายกา รัฐมนตรีเกษตรกรรมและอาหารของยูเครน เปิดเผยว่ารัฐบาลยังคงในขั้นตอนกำหนดรายชื่อผลิตภัณฑ์ที่มีแผนห้ามข้ามพรมแดนเข้ามาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
"กระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจกำลังดำเนินการกำหนดรายชื่อสินค้าของรัสเซ๊ยที่จะถูกห้ามนำเข้า" สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของยูเครน อ้างคำสัมภาษณ์ของชาวายกา "บัญชีดังกล่าวยังไม่สมบูรณ์ดี"
การค้าระหว่างสองชาติอดีตสหภาพโซเวียตตกอยู่ในภาวะล้มฟุบ ด้วยข้อมูลของยูเครนพบว่าการส่งออกภาคการเกษตรไปยังรัสเซียในช่วง 6 เดือนแรก ลดลงมากกว่าร้อยละ 31 ซึ่งในห้วงดังกล่าวครอบคลุมถึงช่วงเวลาหลายเดือนแห่งความวุ่นวายของการประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีที่ได้รับการหนุนหลังจากเครมลิน จนถูกแทนที่ด้วยรัฐบาลนิยมตะวันตกที่จากนั้นก็ลงนามในข้อตกลงการค้าประวัติศาสตร์กับอียู
ไม่กี่วันที่ผ่านมา สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภครัสเซียออกคำแถลงห้ามนำเข้าขนมหวานและลูกกวาดทุกชนิดจากบริษัทโรเชน ผู้ผลิตขนมหวานรายใหญ่ที่สุดของยูเครน ซึ่งเคยอยู่ภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ผู้นำรัฐบาลเคียฟคนปัจจุบัน โดยให้เหตุผลว่า สินค้าจากโรเชนละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคของรัสเซีย จากการที่ฉลากสินค้าแสดงข้อมูลโภชนาการไม่ครบถ้วน
ขณะเดียวกันพวกเขาก็ยังขึ้นบัญชีดำสินค้าจำพวกผักของยูเครนและอาหารกระป๋องอย่างทูน่าและแซลมอน หลังจากในอดีตที่ผ่านมา มอสโกเคยอ้างเหตุผลความกังวลด้านความปลอดภัยของอาหารในการออกข้อจำกัดต่อมะเขือเทศและสินค้าปลีกของยูเครนมาแล้ว
เครมลิน มักมีปัญหากับผลิตภัณฑ์อาหารที่นำเข้าจากเหล่าชาติอดีตสหภาพโซเวียที่กำลังเริ่มบ่ายหน้ามุ่งสู่ตะวันตก หรือตัดความสัมพันธ์กับรัสเซีย ยกตัวอย่างเช่นพวกเขาเคยห้ามนำเข้าไวน์จากมอลโดวาและเจอร์เจีย 2 ประเทศที่กำลังเจรจาข้อตกลงการค้าและคบค้าสมาคมทางการเมืองกับอียู
ขณะเดียวกันเมื่อเดือนที่แล้ว เครมลิน หยุดนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารจากทั้งหมดจากอียูและสหรัฐฯ หลังจากพวกเขากำหนดมาตรการคว่ำบาตรรุนแรงต่อรัสเซีย ฐานเข้าไปยุ่งเกี่ยวสถานการณ์ในยูเครน
ทั้งความเคลื่อนไหวล่าสุดของยูเครน มีขึ้นหลังจากรัฐสภาลงมติในเดือนสิงหาคม ให้ร่างข้อจำกัดต่างๆต่อรัสเซียและออกคำสั่งงดออกวีซาแก่กลุ่มคนใกล้ชิดวังเครมลินและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ที่มีความเชื่อมโยงกับการที่รัสซียผนวกไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในเดือนมีนาคม
นายอาร์เซนีย์ ยัตเซนยุค นายกรัฐมนตรียูเครนบอกในตอนนั้นว่า มาตรการต่างเหล่านั้นอาจทำให้ประเทศของเขาอาจต้องชดใช้ด้วยการสูญเงินกว่า 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปีแรก สืบเนื่องจากความเป็นไปได้ว่าจะถูกแก็เผ็ดกลับมาจากฝั่งรัสเซีย "เราตระหนักดีถึงสิ่งที่ยูเครนจะต้องชดใช้" เขาบอกกับรัฐสภา "แต่เราก็พร้อมจ่าย เพื่อความเป็นเอกราชของเรา"