เอเจนซีส์ - เจ้าหน้าที่จากเนเธอร์แลนด์เตรียมเผยแพร่รายงานเบื้องต้นในการสอบสวน MH17 ในวันนี้ (9) ระบุถึงสาเหตุที่ทำให้สายการบินสัญชาติมาเลย์ตกในภาคตะวันออกของยูเครนในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตยกลำ
คณะกรรมการบอร์ดความปลอดภัยดัตช์ หรือ Dutch Safety Board (DSB) หัวหน้าคณะทำงานสอบสวนนานาชาติคดี MH17 ถึงกำหนดที่ต้องเปิดเผยรายงานการสอบสวนเบื้องต้นว่าเหตุใดจึงทำให้สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สที่เดินทางจากเนเธอร์แลนด์ไปยังมาเลเซียจึงตก และทำให้คนทั้งหมด 298 คน ที่อยู่บนเครื่องที่ส่วนใหญ่เป็นพลเมืองดัตช์ต้องเสียชีวิตยกลำในขณะที่เครื่องบินกำลังตก ท่ามกลางรายงานข่าวทั่งทุกมุมโลกที่คาดว่า MH17 ถูกกบฏยูเครนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียยิงตก
ทั้งนี้ สื่ออังกฤษ หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน รายงานเมื่อวานนี้ (8) ว่า รายงานขั้นต้นของ DSB จะรวมถึงข้อมูลทั้งหมดที่ได้มาจากเครื่องบันทึกเสียงภายในห้องนักบินคนขับ ข้อมูลบันทึกการบิน ข้อมูลภาพจากดาวเทียม และข้อมูลเรดาร์
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า หลักฐานทั้งหมดที่มีนั้นจะสามารถระบุได้ว่าใครเป็นผู้ยิงขีปนาวุธโจมตี MH17 จนทำให้ตกในที่สุด และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทางทีม DSB จะให้ความเห็นในรายงานถึงกบฏยูเครนจากการที่ 1 วันหลังจาก MH17 ถูกยิงตก ผู้นำขบวนการเคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดนยูเครนอ้างผ่านโซเชียลมีเดียว่า สมาชิกของกลุ่มได้ยิงเครื่องบินยูเครนตก แต่ในเวลาต่อมาต้องถอนคำพูดเพราะกลับกลายเป็นเครื่องบินพาณิชย์พลเรือนที่ถูกยิงตกแทน และเคียฟยังเผยแพร่ข้อมูลสนทนาลับที่ดักฟังได้ระหว่างสมาชิกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยุเครนด้วยกัน ยืนยันได้ว่า “ทางกลุ่มเป็นผู้ลงมือก่อเหตุครั้งนี้”
บนเว็บไซต์ของ DSB ทางหน่วยงานประกาศว่า “ทางหน่วยงานจะไม่ออกแถลงการณ์ในการกล่าวโทษ หรือการรับผิดชอบ เพราะสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการสอบสวน”
นอกจากนี้ บรัสเซลส์ยังแถลงถึงสาหเตุการล่าช้า “ราว 2-3 วัน” ของเจ้าหน้าที่ DSB เข้าสู่จุดตกของ MH17 เพราะต้องรอสัญญาณที่ส่งออกมาจากการเจรจาหยุดยิงระหว่างเคียฟและแบ่งแยกยูเครนนิยมมอสโกในวันศุกร์ที่ผ่านมา (5)
เป็นเพราะในช่างแรกของการสอบสวน พื้นที่ของการเข้าสำรวจยังไม่สงบจากเหตุสู้รบระหว่างรัฐบาลเคียฟ และกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครนจึงเป็นอุปสรรคต่อทางผู้เชี่ยวชาญจาก DSB จะเดินทางเข้าไปในพื้นที่และทำงานด้วยความปลอดภัย แต่กระนั้นทางหน่วยงานเลือกใช้วิธีสอบสวนโดยอ้างอิงจากข้อมูลจากแหล่งอื่นๆ แทน “และเมื่อเหตุการณ์ในพื้นที่จุดตกปลอดภัยและมั่นคงพอ ทางหน่วยงานจะส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าสำรวจพื้นที่จริงอย่างแน่นอนเพื่อตรวจสอบผลการสอบสวนที่ใช้ข้อมูลอ้างอิงนอกพื้นที่จุดตก และจะเริ่มต้นค้นหาเศษชิ้นส่วน และหลักฐานสำคัญอื่นๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่ในพื้นที่” DSB แถลง
และรายงานฉบับเต็มของหน่วยงานคาดว่าต้องใช้เวลาถึง 1 ปี จึงจะสามารถออกเผยแพร่ได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับข้อกำหนดขององค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organisation) ที่จะกำหนดระยะเวลาในการออกเผยแพร่
“ทั้งนี้ รายงานการสอบสวนเบื้องต้นไม่ตั้งเกณฑ์ใดๆ ในส่วนของโครงสร้างการสอบสวนหรือขอบเขตสิ่งที่ต้องค้นหา และเนื้อหาของรายงานนั้นอ้างอิงมาจากความก้าวหน้าการสอบสวน และสิ่งที่ได้ค้นพบ” DSB แถลงเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม สื่อข่าวเชิงสอบสวน Bellingcat ได้เผยแพร่ภาพซึ่งทางเว็บไซต์ชี้ว่า “ระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน” มีส่วนทำให้ MH17 ตก ซึ่งยิงมาจากกองทัพรัสเซียหน่วย 53 “Kurskrd Buk” และข้อมูลใหม่ล่าสุดนี้ช่วยเพิ่มน้ำหนักว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่
