เอเอฟพี - ทางการออสเตรเลีย “มั่นใจเกือบ 100%” ว่าเศษชิ้นส่วนปริศนาจำนวน 2 ชิ้นที่พบบนชายหาดโมซัมบิกน่าจะมาจากเที่ยวบิน MH370 ของมาเลเซียแอร์ไลน์ที่สูญหายไปเมื่อ 2 ปีก่อน รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมออสซี่แถลงวันนี้ (24 มี.ค.)
ดาร์เรน เชสเตอร์ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมออสเตรเลีย แถลงว่า “ผลการวิเคราะห์ได้ข้อสรุปที่ค่อนข้างแน่นอนว่าชิ้นส่วนเหล่านี้น่าจะมาจากเที่ยวบิน MH370” พร้อมเสริมว่า ทีมสืบสวนกรณีการสูญหายของเที่ยวบิน MH370 พบว่าชิ้นส่วนเหล่านี้มีลักษณะตรงกันกับเศษลำตัวของเครื่องบินโบอิ้ง 777 ที่มาเลเซียแอร์ไลน์สใช้งานอยู่
“การที่ชิ้นส่วนเหล่านี้ถูกพบอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของทวีปแอฟริกา สอดคล้องกับการจำลองรูปแบบการไหลเวียนของกระแสน้ำในมหาสมุทรที่ทำขึ้นโดยสถาบันวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมแห่งเครือจักรภพ (Commonwealth Scientific and Industrial Research Organization - CSIRO) และเป็นการยืนยันว่าปฏิบัติการค้นหาในมหาสมุทรอินเดียตอนใต้นั้นมาถูกทางแล้ว”
รัฐบาลออสเตรเลียเป็นผู้นำในการค้นหาเที่ยวบิน MH370 ซึ่งเชื่อว่าได้ถูกบังคับออกนอกเส้นทาง ขณะนำผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คนออกจากกรุงกัวลาลัมเปอร์เพื่อไปยังกรุงปักกิ่ง เมื่อกลางดึกของวันที่ 8 มี.ค. ปี 2014
ปฏิบัติการค้นหาจะปิดฉากลงในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. หากไม่พบจุดตกที่แน่นอนของเครื่องบินอยู่ภายในพื้นที่ค้นหา 120,000 ตารางกิโลเมตร
“การค้นหา MH370 ยังคงดำเนินต่อไป... ขณะนี้ยังเหลือพื้นที่อีกราวๆ 25,000 ตารางกิโลเมตรที่รอการตรวจสอบ เราตั้งใจว่าจะทำงานนี้ให้สำเร็จ และยังมีความหวังว่าจะพบเครื่องบินลำนี้ในที่สุด” เชสเตอร์ระบุ
แม้จะผ่านมาแล้วกว่า 2 ปี ทว่าทีมค้นหาก็ยังไม่สามารถระบุจุดตกของ MH370 ได้ และมีเพียงชิ้นส่วนปีกเครื่องบินโบอิ้ง 777 ที่พบบนชายฝั่งเกาะลาเรอูนียงของฝรั่งเศสเท่านั้นที่ได้รับการยืนยันว่ามาจากเครื่องบินลำนี้จริงๆ
ผู้เชี่ยวชาญจากมาเลเซีย ออสเตรเลีย และโบอิ้ง ได้ร่วมกันตรวจสอบชิ้นส่วนปริศนาจำนวน 2 ชิ้นที่ถูกพบเมื่อต้นเดือนนี้บนชายหาดโมซัมบิก
ศูนย์ประสานงานร่วมออสเตรเลีย (JACC) แถลงล่าสุดเมื่อวานนี้ (23) ว่า รัฐบาลมาเลเซียได้ประสานไปยังทางการแอฟริกาใต้ เพื่อขอตรวจสอบชิ้นส่วนที่คล้ายกับโลหะครอบเครื่องยนต์ของเครื่องบิน (cowling) ซึ่งถูกพบใกล้ๆ กับเมืองมอสเซล เบย์ ในจังหวัดเวสเทิร์นเคป
มอสเซล เบย์ อยู่ห่างออกไปราวๆ 2,000 กิโลเมตรจากวิลันกูโล ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศในโมซัมบิกที่มีการพบชิ้นส่วนปริศนา 1 ใน 2 ชิ้น
