เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-รัฐบาลจีนภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ตกเป็นข่าวในวันพฤหัสบดี (4 ก.ย.) เปิดการเจรจากับรัฐบาลรัสเซียภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เพื่อสั่งซื้อเครื่องบินขับไล่จากแดนหมีขาวเข้าประจำการในกองทัพแดนมังกร
รายงานข่าวล่าสุดซึ่งอ้างแหล่งข่าวทั้งในกรุงปักกิ่งและกรุงมอสโกระบุตรงกันว่าขณะนี้รัฐบาลจีนภายใต้การนำของสี จิ้นผิงและรัฐบาลปูตินแห่งรัสเซียได้เปิดการเจรจาลับซึ่งมีเนื้อหาสำคัญ คือ การที่จีนจะจัดซื้อ “อาวุธยุทโธปกรณ์ล็อตใหญ่” จากรัสเซียเพื่อเสริมสร้างแสนยานุภาพทางทหารของตนตามแผนยุทธศาสตร์ปรับปรุงกองทัพแดนมังกร
รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลจีนต้องการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่แบบ “Sukhoi-35” หรือ “ซู-35” จำนวนหลายสิบลำ จากรัสเซีย เพื่อรองรับภารกิจในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ โดยเฉพาะในบริเวณน่านฟ้าเหนือพื้นที่พิพาทในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ ที่จีนมีข้อพิพาทกับหลายประเทศเกี่ยวกับการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะหลายแห่งในแถบนี้
นอกเหนือจากการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ซู-35 ที่มีสนนราคาตกอยู่ที่ลำละ 40-65 ล้านดอลลาร์แล้ว แหล่งข่าวเผยด้วยว่า รัฐบาลจีน ยังต้องการจัดซื้อเรือดำน้ำภายใต้โครงการลับ “อามูร์-1650” ของรัสเซียด้วยเช่นกัน แม้จะยังไม่เป็นที่แน่ชัดถึงจำนวนของเรือดำน้ำสัญชาติรัสเซีย ที่รัฐบาลจีนต้องการซื้อไว้ใช้งาน
ด้านเซอร์เก เชเมซอฟ ผู้อำนวยการใหญ่ของ “รอสเทค คอร์ป” บริษัทผู้ผลิตอาวุธรายใหญ่ ที่มีรัฐบาลรัสเซียเป็นเจ้าของออกมาเปิดเผยระหว่างเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งตามคำเชิญของรัฐบาลจีนในวันพฤหัสบดี (4 ก.ย.) โดยระบุว่า การเจรจาระหว่างทั้งสองประเทศในเรื่องดังกล่าวกำลังดำเนินไปด้วยดี
ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน รัฐบาลจีนเพิ่งประกาศจับมือกับรัสเซีย ร่วมกันก่อสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติในเขต “ไซบีเรีย” ทางภาคตะวันออกของรัสเซียความยาว “เกือบ 4,000 กิโลเมตร” เพื่อรองรับการจัดส่งก๊าซธรรมชาติจำนวนมหาศาลจากรัสเซียไปยังจีนตลอด 30 ปีข้างหน้า
โดยแหล่งข่าวทางการทูตในกรุงมอสโกเปิดเผยว่า โครงการความร่วมมือก่อสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติระหว่างรัสเซียและจีนในครั้งนี้มีมูลค่ารวมของโครงการสูงกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(หรือราว 159,875 ล้านบาท) และสามารถรองรับการส่งออกก๊าซธรรมชาติจากแดนหมีขาวไปยังแดนมังกร ได้ถึงปีละ 38,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ได้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2018 เป็นต้นไป