xs
xsm
sm
md
lg

อัลกออิดะห์ประกาศตั้ง “ขบวนการก่อการร้าย” เคลื่อนไหวใน “อินเดีย-บังกลาเทศ-พม่า”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อัยมาน อัล-ซอวาฮิรี วัย 63 ปี ผู้นำสูงสุดของกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์
เอเอฟพี - อัยมาน อัล-ซอวาฮิรี ผู้นำสูงสุดของอัลกออิดะห์ ประกาศจัดตั้งขบวนการอิสลามิสต์หัวรุนแรงกลุ่มใหม่ในภูมิภาคเอเชียใต้ เมื่อวานนี้ (3 ก.ย.) โดยจะเน้นเคลื่อนไหวในอินเดีย บังกลาเทศ และพม่า

ศูนย์สังเกตการณ์กลุ่มก่อการร้าย SITE รายงานว่า ซอวาฮิรีได้โพสต์คลิปวิดีโอลงบนกระดานสนทนาออนไลน์ของนักรบญิฮาด โดยระบุว่ากองกำลังของอัลกออิดะห์กลุ่มใหม่จะ “สลายพรมแดนสมมติ” ที่ขวางกั้นประชากรมุสลิมในภูมิภาคเอเชียใต้ให้หมดสิ้นไป

อัลกออิดะห์มีการดำเนินกิจกรรมอย่างเข้มข้นในอัฟกานิสถาน และปากีสถาน เชื่อกันว่าน่าจะเป็นสถานที่หลบซ่อนของบรรดาผู้นำสูงสุดด้วย ทว่าเครือข่าย “กออิดัต อัล-ญิฮาด” ที่ถูกก่อตั้งขึ้นใหม่นี้จะเน้นปฏิบัติการต่อสู้ในอินเดีย พม่า และบังกลาเทศ

“กออิดัต อัล-ญิฮาด ไม่ใช่เพิ่งมาก่อตั้งในวันนี้ แต่เป็นผลพวงจากความสำเร็จในการรวบรวมเหล่ามุญาฮิดีนในเอเชียใต้จนเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 2 ปี” ซอวาฮิรีกล่าว

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เครือข่ายก่อการร้ายระดับโลกที่ก่อตั้งโดยอุซามะห์ บิน ลาดิน ได้อ้างตัวเป็นผู้นำสูงสุดของบรรดานักรบญิฮาดที่ต่อสู้เพื่อฟื้นฟูระบบคอลีฟะห์ในดินแดนของชาวมุสลิม ทว่า หลังจาก บิน ลาดิน ถูกหน่วยจู่โจมพิเศษ “ซีลส์” ของสหรัฐฯ บุกสังหารคาบ้านพักที่ปากีสถานเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2011 บทบาทของอัลกออิดะห์ก็ดูจะด้อยลงไป เมื่อเทียบกับกลุ่มติดอาวุธที่เป็นสาขาย่อยของพวกเขาในแอฟริกาและคาบสมุทรอาระเบีย รวมไปถึงกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซึ่งกำลังขยายอิทธิพลในอิรักและซีเรีย

แม้จะยังถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อตะวันตก แต่อัลกออิดะห์กลับไม่เคยสร้างปรากฏการณ์โจมตีที่น่าหวาดผวาได้เหมือนเมื่อคราวที่จี้เครื่องบินโดยสารพุ่งชนอาคารในนิวยอร์กและวอชิงตัน เมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2001

อย่างไรก็ตาม การถือกำเนิดขึ้นของเครือข่ายกออิดัต อัล-ญิฮาด ในภูมิภาคเอเชียใต้ครั้งนี้ ซอวาฮิรีดูมีความมุ่งมาดปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะฟื้นบทบาทของอัลกออิดะห์ โดยใช้ความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติในแคชเมียร์และพม่ามาเป็นเครื่องมือ

“นี่คือเครือข่ายที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเผยแพร่คำเรียกร้องของท่านอิหม่าม ชัยค์ อุซามะห์ บิน ลาดิน ขอพระเจ้าโปรดประทานความเมตตาต่อท่าน” ซอวาฮิรีกล่าว

เขายังวิงวอนให้ “อุมมะห์” หรือประชาชาติมุสลิมทั้งหลายผนึกกำลังกันโดยยึดหลัก “เตาฮีด” (การเคารพนับถือพระเจ้าองค์เดียว) และร่วมกัน “ทำญิฮาดต่อสู้ศัตรูเพื่อปลดปล่อยดินแดนของชาวมุสลิม กอบกู้อำนาจอธิปไตย และฟื้นฟูระบบคอลีฟะห์ให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง”

ซอวาฮิรี ระบุว่า กออิดัต อัล-ญิฮาด จะยอมรับในความเป็นผู้นำของมุลเลาะห์ มูฮัมหมัด โอมาร์ หัวหน้ากลุ่มตอลิบานในอัฟกานิสถาน และจะมีนักรบชาวปากีสถานอย่าง อาซิม อุมาร์ เป็นผู้นำปฏิบัติการรายวัน

คลิปวิดีโอนี้ถูกผลิตขึ้นโดยมูลนิธิสื่อ อัส-ซาฮาบ ซึ่งเป็นสื่อของอัลกออิดะห์เอง และมีการเผยแพร่อย่างกว้างขวางตามบอร์ดสนทนาออนไลน์ของกลุ่มติดอาวุธมุสลิม

ซอวาฮิรีประกาศด้วยว่า เครือข่ายก่อการร้ายกลุ่มใหม่จะเน้นปฏิบัติการในรัฐอัสสัม, คุชราต และแคชเมียร์ ดินแดนที่มีพลเมืองมุสลิมอาศัยอยู่หนาแน่น รวมถึงบังกลาเทศและพม่า

ชาวมุสลิมหลายล้านคนอพยพออกจากอินเดียไปยังปากีสถาน หลังจากมีการแยกประเทศในปี 1947 และทุกวันนี้ความไม่ลงรอยระหว่างชนกลุ่มน้อยมุสลิมกับพลเมืองอินเดียส่วนใหญ่ที่นับถือศาสนาฮินดูก็ยังมีให้เห็นอยู่

แคชเมียร์ เป็นฐานที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธที่ต่อต้านการปกครองของรัฐบาลอินเดีย และก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเหตุโจมตีมาแล้วหลายครั้งในแดนภารตะ ครั้งร้ายแรงที่สุดเกิดขึ้นในนครมุมไบเมื่อปี 2008 คร่าชีวิตพลเมืองไปถึง 166 คน

ชาวมุสลิมในอินเดียก็ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงโดยพวกฮินดูชาตินิยมจัดเช่นกัน โดยมีหลายร้อยคนที่ต้องเสียชีวิตไปในเหตุจลาจลที่รัฐคุชราตเมื่อปี 2002 ซึ่งขณะนั้นนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ยังมีตำแหน่งเป็นมุขมนตรีประจำรัฐ

สำหรับพม่าก็มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่เป็นประชากรกลุ่มน้อย โดยเฉพาะชาวโรฮิงญาซึ่งอยู่ในสภาพคนไร้รัฐ และถูกไล่ล่าสังหารโดยชาวพุทธที่เป็นคนกลุ่มใหญ่

ซอวาฮิรี วัย 63 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อการร้ายที่สหรัฐฯ ต้องการตัวมากที่สุด และตั้งค่าหัวเอาไว้สูงถึง 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เรียกร้องให้ชาวมุสลิมในอนุทวีปสนับสนุน “พี่น้องมุญาฮิดีน” ที่ต่อสู้เพื่อศาสนา รวมถึงปฏิเสธ “ภาพลวงตา” ของระบอบประชาธิปไตย และหันมาสนับสนุนการก่อตั้งรัฐที่ปกครองด้วยกฎหมายอิสลามแทน
กำลังโหลดความคิดเห็น