ยูเครนพร้อมสู้! เตือน “มหาสงคราม” กับรัสเซีย ผู้คนจะตายเป็นเบือ

เอเอฟพี - รัฐมนตรีกลาโหมยูเครนระบุเมื่อวันจันทร์ (1 ก.ย.) ว่าการเปิดฉาก “มหาสงคราม” ระหว่างเคียฟกับรัสเซียเพื่ออนาคตของประเทศจะมีคนตายหลายพันชีวิต ยืนยันชาติของเขาจะไม่มีวันยอมจำนน ส่วนว่าที่ประธานสภายุโรปก็เตือน สงครามทางภาคตะวันออกของยูเครนอาจแผ่ลามกระทบต่อประชาคมตะวันตก หากนาโต้ไม่ยอมแสดงจุดยืนที่แข็งกร้าวในเร็ววัน

“มหาสงครามมาถึงบันไดหน้าบ้านของเราแล้ว มันเป็นบางสิ่งที่ยุโรปไม่เคยพบเห็นมาก่อนตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ความสูญเสียในสงครามเช่นนี้จะไม่สามารถวัดได้เพียงหลักร้อย แต่มันคือหลักพันหรือเป็นหมื่นๆ” วาเลรีย์ เกเลตีย์ รัฐมนตรีกลาโหมยูเครนระบุในเฟซบุ๊ก

นาโต้ กล่าวหาว่าเครมลินกำลังเสริมทหารอีกมากกว่า 1,100 นาย และอาวุธหนักข้ามพรมแดนเข้าไปในภาคตะวันออกยูเครนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

ในวันจันทร์ (1 ก.ย.) เป็นอีกครั้งที่รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาส่งหรือกำลังวางแผนส่งทหารเข้าไปเพื่อช่วยเหลือฝ่าบกบฏนิยมมอสโก เพื่อตอบโต้การจู่โจมของกองกำลังรัฐบาลฝักใฝ่ตะวันตก กระนั้นแกนนำของพวกแบ่งแยกดินแดน กลับยอมรับว่ามีนายทหารนอกราชการของเครมลินบางรายเข้าร่วมรบกับพวกเขา

นายเกเลตีย์ เขียนเตือนบนทวิตเตอร์ ย้ำว่ายูเครนไม่มีแผนที่จะยอมจำนน และเปรียบเทียบความขัดแย้งนี้กับมหาสงครามของผู้รักชาติ (Great Patriotic War) ชื่อที่เหล่าชาติอดีตสหภาพโซเวียตใช้ต่อสู้กับนาซีเยอรมนี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

ความเคลื่อนไหวของรัฐมนตรีกลาโหมยูเครน สอดคล้องกับคำพูดของนายโดนัลด์ ทุสก์ นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ ที่เตือนในวันจันทร์ (1 ก.ย.) สงครามทางภาคตะวันออกของยูเครน เสี่ยงที่จะขยายวงกว้าง หากว่านาโต้ไม่ยอมแสดงจุดยืนที่แข็งกร้าวในเร็ววันนี้

ทุสค์ ว่าที่ประธานคนถัดไปของสหภาพยุโรป กล่าวในวาระที่ชาวโปแลนด์ รำลึกครบรอบ 75 ปี เยอรมนีนาซี ลงมือโจมตีโปแลนด์ ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 1 กันยายน 1939 “ประชาคมตะวันตกของเรากำลังถูกคุกคามโดยสงคราม ไม่ใช่แค่ในภาคตะวันออกของยูเครน ยังมีเวลาสำหรับหยุดยั้งความรุนแรง กองกำลังและการรุกรานเหล่านี้ ที่อีกครั้งมันถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของอาวุธทางการเมือง” เขากล่าว ซึ่งชัดเจนว่าเป็นการพาดพิงถึงบทบาทของรัสเซียในวิกฤตยูเครน

นายกรัฐมนตรีโปแลนด์เร่งเร้าว่าการประชุมซัมมิทนาโต้ในสัปดาห์นี้ ควรได้ข้อสรุปนโยบายด้านความมั่นคงใหม่ๆ เพื่อรับประกันว่าคำประกาศไม่มีสงครามอีกต่อไป จะไม่เป็นแค่ถ้อยแถลงที่อ่อนแอและไร้ประโยชน์ใดๆ

สำหรับนายทุสก์ นับเป็นหนึ่งในเหล่าผู้นำของสหภาพยุโรปที่ออกมาพูดเรื่องวิกฤตยูเครนบ่อยครั้งที่สุดและไม่เคยลังเลที่จะต้องคำถามต่อบทบาทของรัสเซียในความพยายามยุยงปลุกปั่นสถานการณ์ความรุนแรง

เขาและเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ ในภูมิภาค เรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้นาโต้ จริงจังกับการเสริมกำลังในฝั่งตะวันออกท่ามกลางความกังวลว่าโปแลนด์และอีก 3 ชาติสหภาพโซเวียตในแถบคาบสมุทรบอลติก อาจถูกรัสเซียกลับมาเข้ายึดครองอีกครั้ง

28 ชาติสมาชิกได้เลือกนายทุสก์ขึ้นเป็นประธานสหภาพยุโรปคนใหม่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และเขาจะเข้ารับตำแหน่งต่อจากนายเฮอร์มาน ฟาน รอมปุย ในวันที่ 1 ธันวาคม