เอพี - การ์ตูนสั้นที่มีเนื้อเรื่องแสดงให้เห็นถึงนักรบญิฮัดหนุ่มเฟอะฟะผู้หนึ่ง ทำเครื่องยิงจรวดตกใส่เท้าหัวหน้าของเขา ก่อนที่จะพยายามแก้ตัวด้วยการหยิบอาวุธชิ้นนั้นหันไปเล็งใส่จุดตรวจที่อยู่บริเวณนอกเมืองแห่งหนึ่งในอิรัก โดยที่หารู้ไม่ว่าเขาหันปากกระบอกผิดด้าน ทำให้จรวดพุ่งเข้าใส่หัวหน้าที่อยู่ด้านหลัง คืออีกหนึ่งสีสันที่เกิดขึ้นท่ามกลางการสู้รบอันดุเดือดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มนักรบญิฮัดทำท่าจะเป็นผู้ได้เปรียบ
การ์ตูนสั้นที่ใช้ลายเส้นสไตล์เดียวกับ “ลูนีย์ ตูนส์” มีเนื้อหาพุ่งเป้าเยาะเย้ยกองกำลังกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ได้ถือกำเนิดขึ้นหลังจากที่กลุ่มนักรบญิฮัดดังกล่าวได้บุกยึดครองพื้นที่ในอิรักและซีเรียเป็นบริเวณกว้าง ทั้งยังประกาศตั้ง “รัฐกาหลิบ” และไล่เข่นฆ่าบรรดานักโทษที่นักรบญิฮัดจับได้ รวมถึงการปล่อยวิดีโอฆ่าตัดคออันน่าสยดสยองออกมาในโลกอินเทอร์เน็ต
เครือข่ายโทรทัศน์ทั่วทั้งตะวันออกกลาง ได้เริ่มฉายการ์ตูนและรายการตลกที่ล้อเลียนกลุ่มไอเอสที่อวดอ้างว่าพวกตนเป็นตัวแทนของศาสนาอิสลาม รายการเหล่านี้แม้ไม่ได้เป็นการท้าทายต่อสิ่งที่พวกกลุ่มไอเอสแย่งชิงมาได้จากในสนามรบ แต่ก็เป็นการท้าทายความถูกต้องชอบธรรมของกลุ่มนักรบญิฮัดนี้ รวมทั้งเป็นการขจัดความหวาดกลัวของผู้คนที่กำลังกังวลว่าอาจจะไม่มีใครหยุดยั้งกลุ่มไอเอสได้
นาบิล อัซซัฟ หนึ่งในโปรดิวเซอร์และผู้เขียนบทรายการ “กะตีร์ ซัลบี โชว์” ของเลบานอน ระบุว่า กลุ่มติดอาวุธพวกนี้ไม่ใช่ตัวแทนที่แท้จริงของศาสนาอิสลาม ดังนั้นการล้อเลียน จึงเป็นวิธีที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ยอมรับกลุ่มไอเอส แน่นอนว่านี่เป็นประเด็นที่อ่อนไหว แต่มันเป็นหนทางที่จะปฏิเสธพวกหัวรุนแรงเหล่านี้ และทำให้เห็นว่าผู้คนไม่ได้หวาดกลัว
กลุ่มติดอาวุธ “รัฐอิสลาม” ที่ถือกำเนิดมาจากสงครามซีเรีย ตอนนี้กำลังเผชิญการท้าทายในสงครามทางวัฒนธรรม หลังจากความสำเร็จในสนามรบของพวกเขา เมื่อเร็วๆนี้ผู้มีอำนาจในทางศาสนาอิสลามที่อียิปต์ได้ทำการรณรงค์ในโลกออนไลน์ ขอให้นักข่าวเลิกเรียกกองกำลังติดอาวุธกลุ่มนี้ว่า “รัฐอิสลาม” บรรดานักแสดงตลกก็พากันตอบรับเป็นอย่างดี
มุขตลกตอนหนึ่งของรายการ “กะตีร์ ซัลบี โชว์” ในเลบานอน ได้นำเสนอเรื่องราวของแท็กซี่ที่รับนักรบญิฮัดรายหนึ่งขึ้นรถ แต่ผู้โดยสารเจ้าปัญหาคนนี้ไม่ยอมให้เปิดวิทยุเพราะเป็นของที่ไม่มีในยุคแรกๆ ของศาสนาอิสลาม ไม่มีบัญญัติไว้ในคัมภีร์อัลกุรอาน พอคนขับจะเปิดแอร์ก็ถูกปฏิเสธอีกเช่นกัน แถมยังบ่นใส่คนขับที่รับสายคุยโทรศัพท์มือถือ
ด้านคนขับแท็กซี่ที่เริ่มจะรำคาญผู้โดยสารเจ้าปัญหารายนี้เลยถามกลับไปว่า ในยุคแรกๆ ของศาสนาอิสลาม มีรถแท็กซี่บ้างมั้ย? นักรบญิฮัดตอบกลับทันใดว่าไม่มี คนขับเลยถีบผู้โดยสารหัวรุนแรงรายนี้ลงจากรถแล้วบอกให้รอขี่อูฐเอาละกัน
ทางฝั่งซีเรีย ก็มีรายการข่าวขำขัน ที่มุ่งเป้าเสียดสีกลุ่มไอเอส โดยที่บรรดาพิธีกรต่างพากันแต่งตัวสวมบทบาทล้อเลียนชนิดที่ไม่หวั่นว่าจะโดนแก้เผ็ดในภายหลัง ส่วนที่อิรัก มีการออกอากาศรายการอนิเมชั่นผ่านสถานีโทรทัศน์ของรัฐ ที่มีบรรดาตัวละครจากกองกำลังชาวอิรัก ซึ่งรวมถึงนักรบไอเอสหนุ่มน้อยและบรรดาเจ้าหน้าที่อาวุโสจากยุคสมัยของ “ซัดดัม ฮุสเซน”
อัลลา อัล-มาเจดี จากสถานีโทรทัศน์ อัล-อิรักกิยา แชนแนล ซึ่งดำเนินโดยภาครัฐของอิรัก ระบุว่า พวกเขาทุกคนต่อต้านพวกองค์กรก่อการร้ายเหล่านี้ และรายการตลกคือหนทางหนึ่งที่จะทำให้ทุกคนตระหนักถึงเรื่องนี้
ท่ามกลางการ์ตูนล้อเลียนที่ปรากฏขึ้นมาเหล่านั้น มีกระทั่งกษัตริย์อับดุลเลาะห์ของซาอุดีอาระเบีย ที่ถูกกล่าวหาว่าให้การสนับสนุนกลุ่มไอเอสที่เป็นมุสลิมนิกายสุหนี่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของซาอุฯ เคยปฏิเสธไปแล้ว ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียให้การหนุนหลังพวกกบฏที่ทำการต่อสู้เพื่อขับไล่รับบาลซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัสซาด
แม้กระทั่งวิดีโอการสังหารหมู่ที่แสนหฤโหดของกลุ่มไอเอส ก็ยังกลายมาเป็นมุขตลกล้อเลียนที่สถานีโทรทัศน์ อัล-ฟาลาสตินิยา ของชาวปาเลสไตน์ โดยมีการนำเสนอนักรบญิฮัด 2 รายที่ยิงปืนสังหารชาวมุสลิมที่ไม่รู้ว่าจะต้องคุกเข่ากี่ครั้งในการสวดภาวนา ในขณะที่กำลังนึกถึงบรรดาสาวสวยและงานปาร์ตี้ที่สนุกสุดเหวี่ยงในกรุงเบรุตที่พวกเขาได้ไปเที่ยวมา
เมื่อชาวจอร์แดนที่เป็นคริสเตียนปรากฏตัวออกมา นักรบทั้งสองก็เริ่มทะเลาะกันเอง แย่งว่าใครจะได้เป็นคนสังหารชาวคริสต์ผู้นี้ เพื่อจะได้รับพรจากการสังหารศัตรู อนิจจา ชาวคริสต์ผู้นี้กลับหัวใจวายตายเองไปเสียก่อน ทำให้นักรบญิฮัดคู่นี้ตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก
