เอเอฟพี - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เมื่อวันพฤหัสบดี (28) ชี้โลกได้เห็นอย่างกระจ่างชัดแล้วว่ากองทัพรัสเซียกำลังสู้รบอยู่ในยูเครน ตามหลังรายงานของนาโต้ที่บอกว่ามีทหารมอสโกหลายร้อยข้ามยกพลข้ามพรมแดนเข้าไปเสริมความเข้มแข็งแก่ฝ่ายกบฏต่อต้านเคียฟ แต่รับสหรัฐฯ ไม่มีแผนใช้ปฏิบัติการทางทหารใดๆ เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งที่กำลังลุกลามบานปลาย
โอบามา ซึ่งมีกำหนดเข้าร่วมประชุมซัมมิตนาโต ที่เวลส์ ในสัปดาห์หน้า แสดงจุดยืนว่าหากอดีตชาติสหภาพโซเวียตเป็นหนึ่งในสมาชิกนาโต ก็อาจจะคาดหวังถึงการป้องกันทางทหารจากสหรัฐฯ แต่ด้วยตอนนี้เคียฟยังไม่ใช่ชาติสมาชิก จึงมิอาจให้หลักประกันใดๆ ได้
อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐฯ บอกกับผู้สื่อข่าวว่าเขาจะเชิญประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก มาหารือเกี่ยวกับวิกฤตที่กำลังลุกลาม ที่ทำเนียบขาว ในเดือนกันยายนนี้
คำแถลงของโอบามามีขึ้นหลังจากนาโตรายงานว่า มีทหารรัฐบาลรัสเซียหลายร้อยนายยกพลข้ามพรมแดนเข้าไปทางภาคตะวันออกของยูเครน เพื่อสนับสนุนเหล่านักรบของพวกกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่มอสโก “รัสเซียเจตนาละเมิดอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครนซ้ำแล้วซ้ำเล่า และตอนนี้ภาพใหม่ที่กองกำลังรัสเซียอยู่ภายในยูเครน ทำให้โลกได้เห็นอย่างชัดแจ้งแล้ว การรุกรานของรัสเซียเข้าไปยังยูเครนครั้งนี้ ผลลัพธ์ก็คือรัสเซียจะต้องชดใช้หนักหน่วงขึ้นอีก”
สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปได้ออกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียมาแล้วหลายรอบต่อการเข้าแทรกแซงในยูเครน ท่ามกลางเหตุเผชิญหน้ากันระหว่างมอสโกกับชาติตะวันตกครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามเย็น
ในวันพฤหัสบดี (28) เช่นกัน นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เผยว่าเหล่าผู้นำยุโรปจะหารือถึงความเป็นไปได้ในการออกมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อมอสโก ณ ที่ประชุมซัมมิตในบรัสเซลส์วันเสาร์ (30) นี้ “เราต้องการคลี่คลายปัญหาด้วยการทูต และเราจะไม่ยอมแพ้ในเรื่องนี้ แต่เราจำเป็นต้องยอมรับว่าสิ่งต่างๆ ยุ่งยากมากขึ้นและเลวร้ายลงอีกครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา” แมร์เคิลกล่าว
โอบามาบอกว่า เขาได้หารือทางโทรศัพท์กับนางแมร์เคิล เกี่ยวกับวิกฤตยูเครน และทั้งสองคนเห็นพ้องกันว่ารัสเซียคือผู้ยุยงความรุนแรง ขณะที่พวกแบ่งแยกดินแดนก็ได้รับการฝึกฝน สนับสนุนด้านอาวุธและการเงินจากรัสเซียด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐฯ บอกว่าวอชิงตันจะไม่ใช้ปฏิบัติการทางทหารใดๆ เพื่อคลี่คลายปัญหาของยูเครน “การเผชิญหน้าทางทหารระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ ในภูมิภาคแถบนี้ ไม่อยู่ในแผนของเรา”
กระนั้นผู้นำสหรัฐฯ ยืนกรานว่า สหรัฐฯ จะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับเคียฟ และจะทำทุกอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อรับประกันว่า “พวกเขาจะมีโอกาสดีที่สุดในการจัดกการกับสิ่งที่ยอมรับกันว่าเป็นสถานการณ์ที่ยุ่งยากมากที่สุด”
ก่อนหน้านี้ผู้แทนทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติ เรียกร้องมอสโกหยุดโกหกเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องของพวกเขาในความขัดแย้งนองเลือด ที่คาดหมายกันว่าคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 2,200 ศพนับตั้งแต่เดือนเมษายน “รัสเซียจำเป็นต้องหยุดโกหก หยุดเติมเชื้อไฟแก่ความขัดแย้งนี้” ซาแมนธา เพาเวอร์กล่าวต่อที่ประชุมฉุกเฉินคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ