เอเอฟพี/มาร์เกตวอชต์ - ราคาน้ำมันนิวยอร์กดีดตัววานนี้ (28 ส.ค.) หลังพบเศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดหมาย แต่วอลล์สตรีทขยับลง ท่ามกลางความกังวลต่อวิกฤตยูเครน ปัจจัยนี้เองผลักนักลงทุนหันเข้าหาสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ ช่วยดันทองคำขยับขึ้น
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 67 เซ็นต์ ปิดที่ 94.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 26 เซ็นต์ ปิดที่ 102.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันสหรัฐฯ ได้แรงหนุนจากข้อมูลการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดหมายของอเมริกา เพิ่มความหวังต่ออุปสงค์อันแข็งแกร่งภายในชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดของโลก
กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ เผยว่า เศรษฐกิจของประเทศในช่วงไตรมาส 2 ขยายตัวร้อยละ 4.2 เหนือกว่าที่คาดหมายไว้ หลังจากก่อนหน้านี้เคยประมาณการณ์ไว้ในเดือนกรกฎาคม ว่าจะเติบโตราวๆ ร้อยละ 4.0
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันพฤหัสบดี (28) กลับปิดลบเล็กน้อย หลังข้อมูลเศรษฐกิจอันสดใส ถูกกลบด้วยกระแสความกังวลต่อวิกฤตยูเครน ตามหลังความเคลื่อนไหวทางทหารของรัสเซีย
ดาวโจนส์ ลดลง 40.26 จุด (0.24 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,081.75 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 3.13 จุด (0.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,996.99 จุด แนสแดค ลดลง 11.93 จุด (0.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,557.69 จุด
ยูเครนและชาติตะวันตก ระบุในวันพฤหัสบดี (28) ว่าทหารรัสเซียกำลังเคลื่อนไหวสนับสนุนกบฏฝักใฝ่เครมลิน ซึ่งสู้รบกับรัฐบาลเคียฟมาตั้งแต่เดือนเมษายน
ขณะที่นาโตบอกว่ามีทหารรัสเซียอย่างน้อย 1,000 ราย ถูกส่งเข้าไปประจำการในยูเครน ความเคลื่อนไหวที่สหรัฐฯ ออกมาเตือนว่ากำลังนำมาซึ่งการพิจารณาออกมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อมอสโก
สถานการณ์ความตึงเครียดที่กระพือขึ้นหลังจากมีข่าวว่ารัสเซียส่งทหารเข้าไปในยูเครน ก่อความกังวลและกระตุ้นให้นักลงทุนหันมาถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ส่งผลให้ราคาทองคำวานนี้ (28) ปิดบวกพอสมควร โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 6.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,288.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์