เอเอฟพี - ราคาน้ำมันสหรัฐฯเมื่อวันพุธ (23 ก.ย.) ปิดลบแรงเกือบ 2 ดอลลาร์ หลังพบกำลังผลิตเพิ่มขึ้น ปัจจัยนี้ประกอบกับความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนฉุดให้วอลล์สตรีทขยับลง ส่วนทองคำดีดขึ้น จากแรงช้อนซื้อของนักลงทุน
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 1.88 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.33 ดอลลาร์ปิดที่ 47.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานในวันพุธ (23 ก.ย.) ระบุคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 กันยายน ลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ในข้อมูลดังกล่าวเผยให้เห็นด้วยว่ากำลังผลิตของอเมริกาเพิ่มขึ้น 19,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 9.136 ล้านบาร์เรล หลังก่อนหน้านี้กำลังผลิตลดลงมา 6 วันติด ซ้ำเติมความกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาด
นอกจากนี้แล้วความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังถูกกัดเซาะจากข้อมูลการผลิตที่เซื่องซึมของจีนซึ่งกระพือความกังวลต่ออุปสงค์ทางพลังงานในชาติมหาอำนาจเอเชียแห่งนี้
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (23 ก.ย.) จากแรงฉุดของหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับปิโตรเลียม และข้อมูลที่เผยให้เห็นว่ากิจกรรมภาคโรงงานของจีนอ่อนแอที่สุดในรอบกว่า 6 ปี
ดาวโจนส์ ลดลง 50.58 จุด (0.31 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16.279.89 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 3.98 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,938.76 จุด แนสแดค ลดลง 3.98 จุด (0.80 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,752.74 จุด
ข้อมูลซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน พบว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีน ร่วงจาก 47.5 จุดของเดือนสิงหาคม เหลือ 47.0 ในเดือนกันยายน นับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2009 โดยตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 แสดงให้เห็นถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิต
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงกราวรูด หลังราคาน้ำมันดิ่งหนัก ส่วนหนึ่งมาจากข้อมูลเศรษฐกิจท่อ่อนแอของจีน โดยเชฟรอนปิดลบร้อยละ 1.5 อาปาเช ปิดลบร้อยละ 3.5 และทรานส์โอเชียน บริษัทขุดเจาะน้ำมัน ปิดลบหนักถึงร้อยละ 5.7
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (23 ก.ย.) ปิดในแดนบวก ฟื้นตัวจากแรงช้อนซื้อ ตามหลังขยับลงแรงในช่วง 2 วันของการซื้อขายหลังสุด โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 6.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,131.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์